นักกีฬาสู้ชีวิต หัวใจไม่เคยแพ้

มนุษย์ปุถุชนมีโอกาสประสบพบเจอกับโรคภัยไข้เจ็บด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาคนดังระดับโลก ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน แลนซ์ อาร์มสตรอง ยอมรับว่าเจอมะเร็งร้ายเข้ามาแผ้วพาน แต่น่องเหล็กชาวอเมริกันสามารถผ่านวิกฤติแห่งชีวิตมาได้เช่นเดียวกับ เอ็นวานโก คานู ที่เกือบต้องยุติเส้นทางค้าแข้งไว้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นอาชีพเพราะเส้นเลือดหัวใจตีบ

ทุกวันนี้ยังมีนักกีฬาในอีกหลากหลายสาขาที่เผชิญกับเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถข้ามผ่านฝันร้ายนั้นมาได้

เนเน่ ฮิลาริโอ ชื่อนี้เริ่มเป็นที่คุ้นหูคอยัดห่วงเอ็นบีเอ (NBA) หลังจากที่พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ชาวบราซิเลียนถูก เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เทรดมาจาก นิวยอร์ก นิกส์ เมื่อฤดูกาล 2002/03 เพียงซีซั่นแรกในลีกบาสเกตบอลอาชีพแห่งสหรัฐอเมริกา เนเน่ ผู้มีร่างกายบึกบึนได้รับเลือกให้ติดทีมรุคกี้ยอมเยี่ยมทีมแรก ด้วยผลงานเฉลี่ย 10.5 แต้ม 6.1 รีบาวด์ 1.6 สตีล ต่อเกม

นี่ถือเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ เนเน่ ได้รับการจับตามองว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการพา นักเก็ตส์ ขึ้นไปสู่ความสำเร็จสูงสุด ในเมื่อองค์ประกอบของทีมก็เพียบพร้อมทั้ง อัลเลน ไอเวอร์สัน, เคนยอน มาร์ติน และคาร์เมโล แอนโธนีย์

ทว่าเมื่อช่วงต้นปี นักเก็ตส์ ออกแถลงการณ์ เนเน่ ต้องหยุดพักการเล่นบาสฯ อย่างกะทันหันเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ผู้เล่นทีมชาติบราซิลวัย 25 ปีเดินทางไปตรวจยังโรงพยาบาลในเมือง เบื้องต้นแพทย์พบก้อนเนื้อมิพึงประสงค์ก่อนวินิจฉัยภายหลังว่าเป็นมะเร็งในลูกอัณฑะ

ลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีของ แลนซ์ อาร์มสตรอง หลายฝ่ายคาดการว่าปีกร่าง 6 ฟุต 11 นิ้ว (2.11 เมตร) คงต้องปิดเทอมยาวทั้งฤดูกาลเพื่อรักษาตัว

อย่างไรก็ดี การรู้ว่ามีอาการผิดปกติของร่างกายตั้งแต่หัววัน เนเน่ จึงเข้าทำการรักษาอย่างทันท่วงทีและทีมแพทย์ก็สามารถผ่าเอาเนื้อร้ายออกมาได้สำเร็จ หลังจากพักฟื้นราวสองเดือน เนเน่ สามารถกลับมาช่วยงาน นักเก็ตส์ อีกครั้งในเกมเปิดบ้านเอาชนะ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 118-105 คะแนน เมื่อปลายเดือนก่อน แม้ได้ลงสนามแค่ 1.17 นาที แต่นี่ก็ถือเป็นการต่อ “วีซ่า” ให้ตัวเองได้มีโอกาสประกอบอาชีพต่อไปบนพื้นฐานของกำลังกายที่ฟื้นฟูกำลังใจที่เปี่ยมล้น

ข้ามไปดูอีกลีกยอดฮิตของชาวมะกัน นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ กลายเป็นทีมระดับหัวแถวของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เมื่อเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ความสำเร็จของเฟรนไชส์นอกจากมันสมองของ บิลล์ บิลิชิก และพลังแขนของ ทอม เบรดี

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมรับ “นักรบกู้ชาติ” ต่างทำงานกันอย่างหนัก เทรดี บรูสกี คือหนึ่งในผู้ปิดทองหลังพระ การเข้าสกัดกั้นคู่แข่งที่หนักหน่วงจนบางครั้งทำให้เกิดอาการเบลอไม่ได้ทำให้ชายวัย 35 ปีหวั่นไหว

แต่ไลน์แบ็กเกอร์ยอดฝีมือเกือบยอมแพ้แก่โชคชะตา ทั้งที่เพิ่งพาทีมเถลิงแชมป์ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 3 ในรอบสี่ปี เมื่อต้นปี 2005 บรูสกี ทราบว่าตัวเองมีปัญหาที่กล้ามเนื้อหัวใจจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ความเสี่ยงต่อชีวิตทำให้เขาตัดสินใจพักยาวทั้งฤดูกาล

แต่ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งซึ่งแฝงอยู่ในหัวใจที่อ่อนแอ บรูสกี ฮึดสู้กับสู่สังเวียนคนชนคนอีกครั้งจนได้รับเลือกจากลีกให้เป็น “ผู้เล่นคัมแบ็กแห่งปี” ร่วมกับ สตีฟ สมิธ ปีกนอก แคโรไลนา แพนเธอร์ส

แม้ไม่สามารถช่วย แพทริออตส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 จากความปราชัยต่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ บรูสกี ขอทำหน้าที่ต่อไปทั้งในและนอกสนามด้วยการทำประโยชน์ให่แก่สังคม อุทิศตนให้สหพันธ์โรคหัวใจแห่งสหรัฐฯ พร้อมเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “Never Give Up: My Stroke, My Recovery, and My Return to the NFL.” ขึ้นเมื่อปี 2007 เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องเผชิญโรคร้ายดั่งเช่นเขา

สุดท้ายสำหรับตัวอย่างนักกีฬาที่ต้องฟันฝ่ากับโรคร้าย อีวาน คลาสนิช กำลังไปได้สวยกับการเล่นฟุตบอลให้ แวร์เดอร์ เบรเมน ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หัวหอกชาวโครแอตต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนไต ทุกอย่างดูเลวร้ายเมื่อร่างกายของดาวเตะวัย 28 ปีไม่สามารถเข้ากับไตของคุณแม่ อาชีพนักเตะของ คลาสนิช ทำท่าต้องปิดฉากลงด้วยเวลาอันรวดเร็ว

“พระเจ้าช่วย” นี่เป็นคำพูดของ คลาสนิช ที่เอื้อนเอ่ยออกมาหลังจากได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตจากคุณพ่อและร่างกายสามารถปรับรับได้เป็นอย่างดี หลังจากไม่ได้สัมผัสลูกฟุตบอลมานานหกเดือนเต็ม แพทย์อนุญาตให้ คลาสนิช ลงฝึกซ้อมกับต้นสังกัดได้อย่างเต็มที่ เกมแรกกับ เอเนร์กี ค็อตบุส เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน การลงสนามได้ถึง 65 นาทีถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ที่เคยตัดไตออกไปข้างหนึ่ง

ตอนนี้ คลาสนิช กลับเข้าสู่ภาวะปกติสามารถกลับมาช่วยงาน “นกนางนวล” ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยปราศจากภาวะแทรกซ้อน ที่สำคัญ สลาเวน บิลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชียมีทางเลือกในแนวรุกเพิ่มขึ้นในการพาทีมไปตะลุยศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) รอบสุดท้ายที่สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียช่วงกลางปีนี้ และถ้าเกิด คลาสนิช ฟอร์มเข้าฝักเหมือนสมัยเล่นให้ ซังต์ เพาลี และเบรเมนยุครุ่งเรือง ธงตรา “หมากรุก” มีโอกาสโบกสะบัดบนดินแดนนาฬิกาและแม่น้ำดานูบ