ประเด็นที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในแวดวงไฮโซขณะนี้ก็คือการที่มีบุคคลนิรนามแอบแฝงทำตัวกลมกลืนเข้ามาเดินเฉิดฉายในงานเลี้ยงไฮโซ และพยายามทำทุกวิถีทางให้เป็นข่าวในหน้าสังคม เขาหรือเธอเหล่านี้ต่างมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย บ้างเพียงเพราะอยากเข้ามาสัมผัสบรรยากาศอันเลิศหรู บ้างก็ต้องการหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจ ขณะที่บางคนเข้ามาเพื่อปูทางไปสู่อาชีพการงานต่างๆ และบางคนเข้ามาเพื่อเสนอขายสินค้า แต่ก็มีไม่น้อยที่ทำไปเพราะอยากดัง
จากที่ได้พูดคุยกับบรรดาผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงไฮโซต่างก็แสดงทัศนะไปในทิศทางเดียวกันว่าปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าวิตกสำหรับสังคมไฮโซยุคใหม่ที่นับวันจะผิดเพี้ยนไปชนิดหารากหาแก่นไม่เจอ แม้หลายคนไม่พร้อมจะเปิดตัวแต่ก็พร้อมจะเปิดใจให้ข้อมูลอย่างถึงกึ๋นกับปรากฏการณ์ ‘ไฮโซผี’ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
เข้ามาแสวงหาประโยชน์
บุคคลหนึ่งซึ่งทำงานคลุกคลีอยู่ในแวดวงไฮโซมากว่าสิบปี บอกกับเราว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามเข้าสู่สังคมไฮโซเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสังคมที่มีภาพลักษณ์อันเลิศหรู และการได้ร่วมในงานเลี้ยงกับบรรดาไฮโซตัวจริงก็ดูจะเป็นหนทางที่ง่ายที่สุดในการก้าวย่างเข้าสู่เส้นทางสายนี้
“ การที่คนพวกนี้จะแฝงตัวเข้ามาร่วมงานเลี้ยงกับพวกไฮโซมันก็มีหลายวิธีนะ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือหาเพื่อนที่เป็นไฮโซ แล้วขอติดสอยห้อยตามเพื่อนเข้ามา แต่บางคนเจ้าของงานเขาไม่ได้เชิญ แล้วก็ไม่ได้รู้จักใครเลย ทำเนียน เดินดุ่ยๆเข้ามาก็มี บางคนก็มาเพราะอยากได้ของชำร่วย คืองานพวกนี้เขาแจกของหรูๆแพงๆทั้งนั้น เจ้าของงานหรือบริษัทเอเจนซีเองก็รู้นะ แต่ทำใจ ถือว่าถ้าไม่ได้มาวุ่นวายหรือสร้างความเสียหายก็ปล่อยไป ต่อให้เจ้าของงานเป็นเป็นแบรนด์เนมดังๆอย่างแอเมส มันก็ต้องมีคนพวกนี้แอบแฝงเข้ามา คือจริงๆเขาซีเรียสนะ แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้ เขาก็ต้องคำนึงถึงภาพพจน์ของสินค้าซึ่งเป็นที่สำคัญกว่า
ปัจจุบันมีไฮโซเก๊ที่หิ้วแบรนด์เนมก็อปฯ ใส่ของปลอมกันเยอะมาก บางคนที่บอกว่าตัวเองเป็นไฮโซก็ใช้ของก็อปฯจนเป็นข่าวว่าไปถูกจับที่ปารีส อย่างบริษัทที่เป็นดิลเล่อร์ของสินค้าแบรนด์เนมหรูๆเขาก็จะรู้ว่าไฮโซไฮซ้อคนไหนบ้างที่ใช้ของปลอม เขาก็ไม่เชิญมาหรอก และคนที่ใช้ของปลอมก็ไม่กล้ามา เพราะรู้ว่าคนในงานเขาดูออก”
เขากล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่น่าวิตกกว่าคือการแฝงตัวเข้ามาทำมาหากินในรูปแบบต่างๆ
“ ที่น่าเป็นห่วงคือเดี๋ยวนี้มันก็มีคนที่เป็นเหลือบไรแฝงตัวเข้ามาหาประโยชน์ในแวดวงไฮโซค่อนข้างเยอะ หลากหลายรูปแบบมาก บางคนก็ทำอาชีพแฝง คือตัวเองเป็นโมเดลลิ่งเอเจนซี่ แต่ไม่ได้ทำจริงจัง แค่ทำเป็นอาชีพเสริม เห็นคนนี้เขาออกงานไฮโซทุกงานเลย คนในงานก็ว่ากันนะ เพราะเที่ยวเจ้ากี้เจ้าการไปทั่ว พยายามทำตัวเหมือนสนิทสนมกับพวกไฮโซ ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย ไฮโซเขาก็รำคาญ แต่ก็ยังเห็นออกงานอยู่นะ คิดว่าเขาคงไปงานบ่อยๆเพื่อให้มีคนพูดถึง พอคนรู้จักจะได้มีงานเข้ามา คือถ้าอยากเชิญไฮโซคนนั้นคนนี้ไปออกงานหรือไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าก็ต้องมาติดต่อที่เขา เพราะคิดว่าเขาน่าจะรู้จักเพราะเดินอยู่ในงานสังคมด้วยกัน”
“ อีกกรณีที่ได้ยินมาคือไฮโซเก๊บางคนก็เอาสินค้ามาขายให้ไฮโซที่มาร่วมงาน ก็มีคนซื้อนะถ้าเป็นพวกเพชรพลอยที่ขายราคาถูกๆ แบบว่าซื้อมา 6 แสน แต่ขาย 4 แสน เพื่อเอาเงินไปหมุนก่อน แต่ในที่สุดก็ต้องหนีเตลิดไป แต่บางคนก็คิดว่าถ้าได้ชื่อว่าไฮโซแล้วจะมีโอกาสก้าวไปทำงานในแวดวงต่างๆได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะงานในสายบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา พิธีกรรายการ ไปจนถึงดารานักร้อง”
ภาพข่าวคือพาสปอร์ตสู่สังคมไฮโซ
นอกจากการออกงานสังคมแล้ว การทำตัวให้เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ทีวี หรือสื่อออนไลน์ ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับไฮโซจำแลงที่ต้องพยายามหาใบรับรองมายืนยันความเป็นไฮโซ
“ บางคนก็มาปรึกษาว่าพี่ขาทำยังไงดีจะให้เป็นข่าว หนูอยากจะลงคอลัมน์นั้นคอลัมน์นี้ พี่ก็จะบอกไปว่าเดี๋ยวลองดูให้แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะ ส่วนใหญ่ที่เขาอยากลงกันมากที่สุดก็คือคอลัมน์ไฮโซรสแซ่บ ของคุณหลี ไทยรัฐ เพราะคอลัมน์นี้เขาไฮโซสุดๆ แต่จริงๆเราก็ไม่ทำให้นะ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อให้เขาได้ผลประโยชน์จากตรงนั้น แบบนี้มีเยอะมาก.. น่ารำคาญ... เมื่อวันก่อนก็มีโทร.มาว่าเนี่ยลูกค้าหนูเขาอยากเป็นข่าว พี่ช่วยหนูหน่อยสิ เขายอมจ่ายเงิน เราก็อ้าว....คอลัมน์นี้เขาไม่รับเงินนะ ถ้าตัวคุณมีอะไรน่าสนใจจริงเขาถึงจะลงข่าวให้
พวกนี้เขาอยากเป็นข่าวหน้าสังคมเพราะมองว่ามันคือใบประกาศว่าเขาเป็นหนึ่งในไฮโซ บางคนก็ชอบไปออกงาน ยอมแต่งตัวบ้าๆบอๆเพื่อให้นักข่าวสนใจจะได้ถ่ายรูปไปลงหนังสือ แต่งตัวเหมือนกันบ้างล่ะ แต่งตัวเว่อบ้างล่ะ ทั้งที่คนที่เขาเอามาลงข่าวก็เพื่อประจานว่าคนนี้นะมันบ้า มันตลก ไม่มีรสนิยมในการแต่งตัว ไม่ถูกกาลเทศะ แต่พอลงข่าวพวกแต่งตัวบ้าๆบอๆบ่อยเข้าการทำแบบนี้เลยกลายเป็นเรื่องเก๋ไป เท่าที่เห็นเนี่ย.. คนที่เป็นไฮโซตัวจริงเนี่ยเขาก็พยายามเลี่ยงว่าทำยังไง๊...ถึงจะไม่เป็นข่าว เวลามาคุยกับเราเขาก็จะบอกว่าพี่เล่าให้ฟังแล้วอย่าไปคุยให้นักข่าวฟังนะ พี่ไม่อยากเป็นข่าว พี่ไม่ชอบ” แหล่งข่าวที่มีสายสัมพันธ์กับสื่อหน้าสังคม บอกเล่าให้ฟังอย่างปลงๆ
ไฮโซตัวจริงเบื่อหน่าย แต่ถูกใจเอเจนซี
หลายคนอาจสงสัยว่าหากบุคคลเหล่านี้เป็นเพียงไฮโซจำแลงที่แฝงตัวเข้ามาแล้วเหตุใดพวกเขาจึงยังสามารถเดินเฉิดฉายอยู่ได้ในงานสังคม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะในอีกมุมหนึ่งพวกเขาก็มีประโยชน์ต่อเจ้าของสินค้าหรือเหล่าเอเจนซี่ที่จัดงาน เพราะคนเหล่านี้สามารถสร้างสีสันให้งานเลี้ยงนั้นดูน่าสนใจ โดยเฉพาะในสายตาของบรรดานักข่าวและช่างภาพซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการประชาสัมพันธ์สินค้า
“เจ้าของสินค้าหรือบริษัทเอเจนซีเขามองว่าการมีคนมาร่วมงานเยอะๆทำให้งานดูคึกคัก น่าสนใจ ดีกว่าคนโหรงเหรง เนื่องจากเวลาเชิญแขกในแวดวงไฮโซก็ใช่ว่าเขามาจะทุกคน ส่งบัตรเชิญไป 100 อาจจะมาได้แค่ 60-70 แล้วตัวเลขคนที่มาร่วมงานมันก็ถือเป็นผลงานของบริษัทรับจัดงานนะ คือถ้ามีคนมาเยอะๆ มีคนดังเยอะๆ มีนักข่าวถ่ายรูปเยอะๆ ถึงจะแต่งตัวบ้าบอๆ แต่งานของเขาถูกพูดถึงก็โอเค แต่ก็มีเจ้าของสินค้าบางรายเหมือนกันที่เริ่มรู้สึกว่าการที่มีคนพวกนี้มาร่วมงานนั้นไร้ประโยชน์ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าของเขาเลย แต่ค่าอาหาร ค่าของชำร่วย มันเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น บางคนไม่ได้ของแจกก็โวยวาย คนที่ตามเพื่อนไฮโซมาก็ให้เพื่อนมาทวงให้
ถ้าถามว่าไฮโซตัวจริงเขารังเกียจพวกไฮโซผีไหม บางคนเขาก็รังเกียจนะ เดี๋ยวนี้ไฮโซตัวจริงเขาถึงไม่ออกงานกันไง จะออกงานกันน้อยมาก เขาจะไปเฉพาะงานที่เจ้าของงานหรือเจ้าของสินค้าเป็นเพื่อสนิทกันจริงๆ ต้องมาให้กำลังใจกัน หรืองานที่มีพรรคพวกเพื่อนฝูงของเขาไปกันเยอะๆ คือเรียกว่าต้องมีตัวจริงมากกว่าตัวปลอม แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาก็ไม่ได้ตั้งแง่กับพวกไฮโซเก๊หรอก เพียงแต่เขารำคาญมากกว่า คือรำคาญว่าพวกนี้ทำตัวไม่ค่อยถูกกาลเทศะ เพราะฉะนั้นไฮโซตัวจริงเขาก็จะปาร์ตี้อยู่ที่บ้าน กินของดีใช้ของดี ไม่ค่อยออกงานกันหรอก ที่เห็นออกงานกันเย้วๆตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ตัวจริง” แหล่งข่าวในแวดวงไฮโซให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา