“เอ็ดเวิร์ด กิตติ” ชีวิตที่เวียนว่ายบนถนนโมเดลลิ่ง

ช่วงเวลาที่นานกว่า 10 ปี ที่ผู้ชายชื่อ “เอ็ดเวิร์ด กิตติ” เวียนว่ายอยู่ในวงการโมเดลลิ่ง

จึงปฎิเสธไม่ได้ว่า เขา คือผู้ที่มีประสบการณ์และความช่ำชองในการคัดและสร้างคน ให้เกิดขึ้นในวงการโมเดลลิ่ง

เขาเกิดในเมืองไทย สัญชาติไทย แต่ไปเติบโตที่สิงคโปร์และอเมริกา ตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะกลับมาเมืองไทยเมื่อประมาณปี 2533 ทำให้เขามีความคิดและมุมมองค่อนไปทางตะวันตก

ชีวิตเขาจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนานกับการเจอหน้าผู้คนที่หลากหลายที่มีความฝันและมุ่งหวังในจุดเดียวกันคือ การได้เป็นนายแบบและนางแบบชื่อดัง

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เอ็ดเวิร์ด ก็ต้องสั่งสมประสบการณ์และผ่านเรื่องราวมามากมาย

“ผมเคยก่อตั้งบริษัท อี แอนด์ แอล เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพื่อทำเกี่ยวกับการจัดหานายแบบนางแบบป้อนให้กับสินค้าและบริการที่ต้องการใช้ เราเริ่มปฎิวัติวงการระบบโมเดลลิ่งในไทย โดยการนำนางแบบนายแบบจากต่างประเทศเข้ามารับงานในไทย โดยที่เรามีสัญญางานให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีทั้งที่พัก งานที่ป้อนให้ เราจัดการเรื่องใบอนุญาติทำงานให้ด้วย ตอนช่วงนั้นเราก็มีนำเข้ามาประมาณ 10 กว่าคน ทั้งจากยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ เรียกว่าเป็นผู้บุกเบิกก็ได้” เอ็ดเวิร์ด ย้อนจุดเริ่มต้นในวงการให้ฟัง

ในอดีตช่วงนั้นการจะหานายแบบนางแบบต่างชาติสักคนเพื่อมาถ่ายโฆษณาหรือถ่ายแฟชั่นนั้น ยากเหลือหลาย วิธีการที่ในวงการเขาทำกันก็คือ ไปเดินหากันตามท้องถนน โดยเฉพาะแถวถนนข้าวสาร เพราะที่นั่นขึ้นชื่อว่ามีฝรั่งต่างชาติมาเดินเที่ยวมากมาย คนไหนหน้าตาดี ถูกใจกรรมการก็มีสิทธิ์มาอยู่หน้ากล้องได้เช่นกัน
กล่าวได้ว่า การทำงานของเขาก็มีลูกค้าทั้งสินค้าและบริการมากมายที่เข้ามาใช้บริการ โมเดลลิ่งจากเขา ไม่ว่าจะเป็น แชมพูคลินิค ซันซิล ห้างเดอะมอลล์ เอฟคิวแอนด์แอล เป็นต้น

ด้วยสายตาที่ยาวไกลและความมุ่งมั่นที่จะทำวงการนี้ให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจติดต่อเจรจาซื้อแฟรนไชส์ โมเดลลิ่ง ชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสในนาม “อีลิท โมเดล ซึ่งเป็นโมเดลลิ่งอันดับหนึ่งของโลกก็ว่าได้ ก่อตั้งที่เมืองปารีสมานานกว่า 38 ปีแล้ว

โดยเอ็ดเวิร์ด กิตติ ได้ตั้งบริษัท อีลิท โมเดล แมเนจเม้ท์ เซ้าท์อีสท์เอเซีย จำกัด ขึ้นมารับลิขสิทธิ์ในการบริหารจัดการ อีลิทโมเดลลิ่งในไทย ในปี 2546 รวมทั้งยังได้รับลิขสิทธิ์ในการบริหารจัดการทำตลาดในอีก 4 ประเทศด้วยคือ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ซึ่งการที่เอ็ดเวิร์ดได้สิทธิ์แฟรนไชส์นี้มา ทำให้เกิดศักยภาพในการทำธุรกิจมากขึ้น เพราะว่าอีลิทมีเครือข่ายทั่วโลกใน 43 ประเทศที่สามารถเชื่อมต่อการจัดการ และการส่งต่อนายแบบ นางแบบ ให้กันได้ เสมือนอยู่ในเครือข่ายที่กว้างไกลนั่นเอง

“ผมต้องการยกระดับวงการโมเดลลิ่งในไทยให้ดีขึ้น สามารถต่อสู้เทียบเท่ากับประเทศในตะวันตกได้ เราจึงต้องซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ของอีลิทเข้ามาดำเนินการ ยิ่งเมื่อเราได้สิทธิ์ทั้ง 5 ประเทศ ก็จะทำให้เราสามารถอินติเกรดกันได้อย่างดี เพราะทั้ง 5 ประเทศรวมกันก็คล้ายๆกับ 1 รัฐในอเมริกาแล้ว ทำให้ตลาดกว้างขึ้น โอกาสก็กว้างขึ้นด้วย เราหางานให้ สร้างโอกาสให้ เพราะโมเดลลิ่งทุกคนนั้นความฝันสูงสุดก็คือ การได้ไปเดินแบบที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนต้องมีผลงาน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นสนามที่ให้เขาแสดงฝีมือถ้ามีงานมาก ก็จะได้งานที่อื่นด้วยในเครือข่ายของเรา”

แค่ดูจากตัวเลขคร่าวๆก็แทบอึ้งแล้ว เพราะเอ็ดเวิร์ดย้ำว่า เขามีโมเดลลิ่งในสังกัดมากกว่า 1,000 คนแล้ว ที่รอคิวรับงานจากอีลิท เฉลี่ยก็ประเทศละ 200 คน แต่เขาย้ำว่า ตลาดที่เวิร์คที่สุดก็คือ ตลาดในประเทศไทยนั้นเอง และมีการใช้นายแบบนางแบบในงานต่างๆมากที่สุดด้วย เมื่อเทียบกับในกลุ่มด้วยกัน 5 ประเทศนี้

เพราะคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน ทำให้เขารู้ดีถึงความต้องการของตลาด และความเหมาะสมของนางแบบและนางแบบแต่ละคนที่จะเหมาะสมกับสินค้าและบริการประเภทใดบ้าง

“ความต้องการโมเดลลิ่งแตกต่างกันมาก เพราะแต่ละสินค้าบริการก็ต่างกันไป แต่หลักๆแล้วก็ต้องมีหุ่นดี หน้าตาสวยคม สูงเพรียว”

ตัวอย่างของโมเดลลิ่งภายใต้สังกัดของอีลิทที่ไปรับงานและสร้างชื่อเสียงมาเช่น

1. Alexandre S. จาก Brazil มีผลงานเข่น Clinic Clear Shampoo ออนแอร์ที่ประเทศ รัสเซีย, กรีซ, โปรตุเกส, ซีรีย์แชมพู X-man ออนแอร์ที่ เวียดนาม ,โมษณายาสีฟัน Dentiste ออนแอร์ไทย, โมษณา Citibank ประเทศไทย, โมษณา ชาลิปตัน ออนแอร์ไทย, นิตยสาร Intrend, Lip, Volumme, ฯลฯ

Nancy B. จาก Canada ผลงานเช่น โมษณายาสีฟัน Closed Up ออนแอร์ที่ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์, Shampoo Clinic clear ออนแอร์ที่ประเทศไทย, โมษณา Chevrolet, โมษณาของ ห้าง Zen (ภาพนิ่ง), โมษณาครีมอาบน้ำ Enchanter ออนแอร์เวียดนาม , Loose Inchฯลฯ 3. Eduardo จาก Brazil ผลงานเช่น Nivea for men ออนแอร์ประเทศไทย, โมษณา คอมพิวเตอร์ Acer, โมษณา Chevrolet, แชมพู Rejoice ออนแอร์ จีน, โมษณา Citi M Visa (ภาพนิ่ง) ประเทศไทย, Catalogue ของ Central, โมษณาของ ห้าง Zen (ภาพนิ่ง, มิวสิควีดีโอ ของตอง ภัครมัย, นิตยสาร Volume, Lips, 2 magazine, แพรว, Seventeen, Premiere ฯลฯ
ทั้งนี้ 3 คนดังกล่าวเป็นคนที่ได้งานชิ้นใหญ่ๆ

ส่วนนางแบบ และ นายแบบคนอื่นๆ ในสังกัดก็เป็นงานประเภท Catalogue เสื้อผ้า Dapper, CCOO, Jaspal, angey แล้วก็พวกนิตยสารแฟชั่นต่างๆ และ งานแฟชั่นโชว์ Elle Fashion Week, Bangkok Fashion Week, Emporium show case, Paragon, Central ซึ่งแต่ละคนก็เด่นไปคนละแนว

เทรนด์ของธุรกิจนี้ เอ็ดเวิร์ดยังเชื่อมั่นว่า ยังเติบโตได้อีกไกล เพราะสินค้าและบริการยังคงต้องมีการแข่งขันกันทางด้านการนำเสนอโฆษณา อีกอย่างเราเองก็อยู่ในวงการนี้มานั้นมีประสบการณ์ มีเครือข่ายโมเดลลิ่งที่กว้างขวาง แม้ว่าทุกวันนี้จะมีผู้เข้ามาในตลาดมากขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้วงการนี้พัฒนาไปได้อีกไกล

เพราะจำนวนโมเดลที่ต้องรับผิดชอบมากมายนี้เอง เอ็ดเวิร์ดยอมรับว่า ปัญหาหลักคือ การบริหารจัดการเรื่องคน คนที่จะอยู่ในอาชีพนี้ได้ต้องมีจิตวิทยาที่สูงพอสมควร ต้องบริหารคนเป็น และต้องวางคนให้ถูกกับงาน เหมือนที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Put the right man on the right job เพราะต่างคนก็ต่างจิตใจ ตรงนี้เป็นเรื่องลำบากมาก อีกทั้งยังมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งทุกอย่างเราต้องบริหารให้ลงตัว

เอ็ดเวิร์ดบอกว่า คนที่จะมาเข้าสังกัดกับอีลิทนี้ จะต้องมีสัญญาเป็นข้อตกลงกันทุกคน นานแค่ไหนก็แล้วแต่ตกลง ส่วนสั้นที่สุดก็คือ2 ปี อย่างต่ำ ส่วนรายได้นั้นจะมาจากการแบ่งเปอร์เซนต์ ซึ่งโมเดลลิ่งจะได้เฉลี่ยตั้งแต่ 65-70% ขณะที่รูปร่างนั้นแน่นอนว่าถ้าเป็นผู้หญิงต้องสูงเพรียว หุ่นดี มีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง ถ้าถ่ายโฆษณาอายุควรอยู่ระหว่าง 18-26 ปี แต่ถ้าถ่ายแฟชั่นก็อยู่ระหว่าง 20-25 ปีกำลังดี แต่เอ็ดเวิร์ดย้ำว่า ปัจจัยหลักที่โมเดลลิ่งทุกคนต้องมีก็คือ ต้องยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ได้

สิ่งที่เขาภูมิใจอีกอย่างก็คือ โครงการทำปฎิทิน Elite-Phuket Calender 2008 ซึ่งเป็นโครง
การร่วมมือระหว่างอีลิทโมเดล แมเนจเมนท์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคใต้เขต 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตผ่านทางแฟชั่น นางแบบ เสื้อผ้าที่สวยงามในรูปแบบของปฎิทิน โดยมนางแบบของอีลิทเป็นผู้ร่วมงานนี้ด้วย

แต่ความฝันอีกอย่างที่เขารอวันที่จะเป็นจริงก็คือ การผลักดันให้นายแบบและนางแบบคนไทย ออกไปรับงานต่างประเทศมากขึ้น อย่างเป็นระบบ เป็นเชิงธุรกิจที่ต่างประเทศยอมรับ เหมือนกับที่โมเดลลิ่งต่างประเทศเข้ามาขุดทองในไทยนั่นเอง