ฤดูกาล 2005 นับเป็นช่วงเวลาที่จะเรียกว่าประสบความสำเร็จได้ไม่เต็มปากนักสำหรับ มาเรีย ชาราโปวา แม้เธอจะขึ้นไปถึงตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของดับเบิลยูทีเอในเดือน สิงหาคม แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์สาวน้อยวัย 17 ปีจากรัสเซียก็ต้องคืนพื้นที่ให้แก่ ลินซีย์ ดาเวนพอร์ต นักเทนนิสรุ่นพี่ที่ยืนหยัดอยู่ในวงการมาช้านาน
เมื่อถึง "สแลม" สุดท้ายของปี ในยูเอส โอเพ่นกองเชียร์ของสาวผมบลอนด์ต่างมีความหวังว่า "นางฟ้า" ของพวกเขาจะกลับมาทำผลงานด้วยการคว้าแชมป์ให้ได้ชื่นใจ แต่ดูเหมือนว่าเทพีแห่งโชคจะไม่ได้ยืนเคียงข้างมาเรีย ชาราโปวาในฤดูกาลนี้เมื่อเธอพ่ายให้แก่ คิม ไคลจ์สเตอร์ ที่ต่อมากลายเป็นเจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2005 หลังโค่นแมรีย์ เพียร์ซ ไปชนิดเหนือ ชั้นสองเซตรวด
แม้ว่าฉากสุดท้ายของชาราโปวา ในแกรนด์สแลมปิดฤดูกาล จะไปได้ไกลแค่รอบรองชนะเลิศ แต่มีการเก็บสถิติว่าผลงานของสาวรัสเซียในสแลมทั้ง 4 ของปี 2005 นั้นคือความพ่ายแพ้ต่อผู้ที่เข้ารอบไปคว้าตำแหน่งแชมป์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียน โอเพ่น ที่เซเรนา วิลเลียมส์ ซึ่งท้ายสุดก็ครองชัยชนะชนิดวัดหัวใจตนเอง ในเฟรนช์โอเพ่น ที่มาเรียไม่ได้คาดหวังผลงานนักแต่เธอก็ไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และพ่ายให้แก่แชมป์ในปีนั้นคือ จัสติน เอแนง
ขณะที่การแข่งขันวิมเบิลดัน วีนัส วิลเลียมส์ ผู้พี่ก็ยังมาตอกย้ำให้มาเรียต้องช้ำลงไปเมื่อเอาชนะเธอและก้าวไปคว้าแชมป์มาครองในรอบชิงชนะเลิศ ปิดท้ายที่ยูเอส โอเพ่น สาวน้อยวัย 17 ปีจากรัสเซียก็ต้องอกหักซ้ำเป็นครั้งที่ 4 แต่ผลงานทั้งหมดก็มิได้ขี้เหร่แต่อย่างใดเพราะ ชาราโปวา ขึ้นสู่ตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกอีกครั้ง ในวันที่ 12 กันยายน 2005 และครานี้เธอสามารถรักษาพื้นที่ได้นานถึง 6 สัปดาห์ ก่อนที่ ดาเวนพอร์ต จะกลับมาทวงด้วยผลงานจาก ซูริก โอเพ่น
ปิดท้ายปี 2005 ชาราโปวาที่นอกจากจะไม่สามารถรักษาแชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดันสมัยที่สองไว้กับตนเองได้สำเร็จแล้ว เธอยังต้องเสียตำแหน่งผู้ชนะในรายการดับเบิลยูทีเอ แชมเปี้ยนชิป ให้แก่ อเมลี โมเรสโม นักเทนนิสหญิงแกร่งชาวฝรั่งเศส ขณะที่อันดับโลกของเธอนั้นอยู่ในลำดับที่ 4
ถึงแม้ว่าผลงานของ ชาราโปวา ในปี 2005 จะไม่โดดเด่นแต่เธอก็ทำให้วงการเทนนิสหญิงของรัสเซียตื่นตัวไม่น้อย เพราะนี่คือผลงานครั้งแรกที่มีแร็กเกตสาวจากรัสเซียขึ้นสู่อันดับโลกได้สูงที่สุดเท่าที่เคยทำผลงานกันมา ขณะเดียวกัน ชาราโปวา ยังเป็นนักเทนนิสหญิงรายเดียวที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ถึงสามแกรนด์สแลมติดต่อกันในหนึ่งฤดูกาล
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
เมื่อถึง "สแลม" สุดท้ายของปี ในยูเอส โอเพ่นกองเชียร์ของสาวผมบลอนด์ต่างมีความหวังว่า "นางฟ้า" ของพวกเขาจะกลับมาทำผลงานด้วยการคว้าแชมป์ให้ได้ชื่นใจ แต่ดูเหมือนว่าเทพีแห่งโชคจะไม่ได้ยืนเคียงข้างมาเรีย ชาราโปวาในฤดูกาลนี้เมื่อเธอพ่ายให้แก่ คิม ไคลจ์สเตอร์ ที่ต่อมากลายเป็นเจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2005 หลังโค่นแมรีย์ เพียร์ซ ไปชนิดเหนือ ชั้นสองเซตรวด
แม้ว่าฉากสุดท้ายของชาราโปวา ในแกรนด์สแลมปิดฤดูกาล จะไปได้ไกลแค่รอบรองชนะเลิศ แต่มีการเก็บสถิติว่าผลงานของสาวรัสเซียในสแลมทั้ง 4 ของปี 2005 นั้นคือความพ่ายแพ้ต่อผู้ที่เข้ารอบไปคว้าตำแหน่งแชมป์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียน โอเพ่น ที่เซเรนา วิลเลียมส์ ซึ่งท้ายสุดก็ครองชัยชนะชนิดวัดหัวใจตนเอง ในเฟรนช์โอเพ่น ที่มาเรียไม่ได้คาดหวังผลงานนักแต่เธอก็ไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และพ่ายให้แก่แชมป์ในปีนั้นคือ จัสติน เอแนง
ขณะที่การแข่งขันวิมเบิลดัน วีนัส วิลเลียมส์ ผู้พี่ก็ยังมาตอกย้ำให้มาเรียต้องช้ำลงไปเมื่อเอาชนะเธอและก้าวไปคว้าแชมป์มาครองในรอบชิงชนะเลิศ ปิดท้ายที่ยูเอส โอเพ่น สาวน้อยวัย 17 ปีจากรัสเซียก็ต้องอกหักซ้ำเป็นครั้งที่ 4 แต่ผลงานทั้งหมดก็มิได้ขี้เหร่แต่อย่างใดเพราะ ชาราโปวา ขึ้นสู่ตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกอีกครั้ง ในวันที่ 12 กันยายน 2005 และครานี้เธอสามารถรักษาพื้นที่ได้นานถึง 6 สัปดาห์ ก่อนที่ ดาเวนพอร์ต จะกลับมาทวงด้วยผลงานจาก ซูริก โอเพ่น
ปิดท้ายปี 2005 ชาราโปวาที่นอกจากจะไม่สามารถรักษาแชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดันสมัยที่สองไว้กับตนเองได้สำเร็จแล้ว เธอยังต้องเสียตำแหน่งผู้ชนะในรายการดับเบิลยูทีเอ แชมเปี้ยนชิป ให้แก่ อเมลี โมเรสโม นักเทนนิสหญิงแกร่งชาวฝรั่งเศส ขณะที่อันดับโลกของเธอนั้นอยู่ในลำดับที่ 4
ถึงแม้ว่าผลงานของ ชาราโปวา ในปี 2005 จะไม่โดดเด่นแต่เธอก็ทำให้วงการเทนนิสหญิงของรัสเซียตื่นตัวไม่น้อย เพราะนี่คือผลงานครั้งแรกที่มีแร็กเกตสาวจากรัสเซียขึ้นสู่อันดับโลกได้สูงที่สุดเท่าที่เคยทำผลงานกันมา ขณะเดียวกัน ชาราโปวา ยังเป็นนักเทนนิสหญิงรายเดียวที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ถึงสามแกรนด์สแลมติดต่อกันในหนึ่งฤดูกาล
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
