ชิบูย่า​เตรียมรับเทศกาลฮาโลวีน​ แต่แนะเลี่ยงแออัด

เกียว​โด​นิวส์​ (25​ ต.ค.)​ ย่านชิบุย่าอันโด่งดังของโตเกียวเตรียมต้อนรับการกลับมาของฝูงชนในเทศกาลฮาโลวีนสุดสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าผู้คนจำนวนมากจะไม่สนใจกับคำขอซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ไม่เข้ามาแออัดในพื้นที่

ในบรรดามาตรการต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อห้ามไม่ให้ผู้ที่มาร่วมงานสังสรรค์นั้น การห้ามดื่มสุราบนถนนรอบๆ สถานีชิบุย่าจะมีผลตั้งแต่เย็นวันศุกร์จนถึงช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 พ.ย. โดยร้านค้ากว่า 30 แห่งในพื้นที่ขอให้หยุดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันเสาร์ และในช่วงเย็นของวันฮาโลวีน

“ปีนี้เรากำลังทำให้ชัดเจนว่าชิบูย่าไม่ใช่สถานที่จัดงานวันฮาโลวีน” นายกเทศมนตรี เคน ฮาเซเบะ กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนนี้ "โปรดอย่ามาที่บริเวณสถานีชิบูย่าในช่วงวันฮาโลวีน"

ฮาเซเบะได้เพิ่มความกระจ่างในการส่งข้อความในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการที่ผู้คนพลุกพล่านบริเวณทางแยกแย่งชิงอันโด่งดังของเขต และพื้นที่อื่นๆ อาจเพิ่มระดับสู่ระดับที่อาจเป็นอันตรายได้ในขณะนี้ หลังจากที่ข้อจำกัดเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาได้ถูกยกเลิกแล้ว

หลายคน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ คาดว่าจะมารวมตัวกันในย่านนี้ในช่วงวันฮาโลวีนครั้งแรก นับตั้งแต่ญี่ปุ่นลดระดับสถานะทางกฎหมายของไวรัสโควิด-19 ลงเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเมื่อต้นปีนี้

จากข้อมูล ชิบูย่ามีผู้เข้าพื้นที่มากกว่า 40,000 คนในคืนวันฮาโลวีนในปี 2019 แม้ว่าจำนวนจะลดลงในปีต่อๆ ไปเนื่องจากการแพร่ระบาด แต่มีความกังวลว่าฝูงชนอาจสูงถึง 60,000 คนเนื่องจากการยกเลิกการจำกัด

“เรากังวลอย่างยิ่งว่าอุบัติเหตุ เช่น โศกนาฏกรรมร้ายแรงในย่านอิแทวอนของกรุงโซลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ” ฮาเซเบะ กล่าว

มีผู้เสียชีวิตกว่า 150 คนจากฝูงชนที่หลั่งไหลเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2022 ในย่านบันเทิงอิแทวอน กรุงโซล หลังจากคนนับหมื่นรวมตัวกันเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเกาหลีใต้

ในตอนแรกชิบูย่ายินดีกับการเฉลิมฉลอง แต่ได้เปลี่ยนท่าทีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภายหลังพบการวิวาทและพฤติกรรมเมาสุราเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพลิกคว่ำรถบรรทุกขนาดเล็กในปี 2018

คาดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 300 นายจะประจำการตั้งแต่คืนวันเสาร์ถึงวันอังคาร เพิ่มขึ้นประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ประมาณ 150 คนที่จะลาดตระเวนและบังคับใช้กฎหมายห้ามดื่มสุราและไม่สูบบุหรี่ในพื้นที่