เกียวโดนิวส์รายงาน (30 ก.ค.) กลุ่มบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ขึ้นแท่นยอดขายรถยนต์อันดับ 1 ของโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แซงหน้าโฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG) ของเยอรมนีและคู่แข่งอื่นๆ ในกลุ่ม เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
ข้อมูลอุตสาหกรรมในวันศุกร์ โตโยต้าระบุว่า ขายรถยนต์ได้ 5.42 ล้านคันทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ยอดขายบริษัทไดฮัทสุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถขนาดเล็กของกลุ่ม และบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกฮีโน่ มอเตอร์ส เพิ่มขึ้น 5.5 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า
โตโยต้ามอเตอร์กล่าวว่า ยอดขายที่แข็งแกร่งนั้นมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลกเพื่อให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนชิปคลี่คลาย
โฟล์คสวาเกน ขายรถยนต์ได้ 4.37 ล้านคันในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 12.8 เปอร์เซ็นต์
ผลผลิตทั่วโลกของกลุ่มโตโยต้าเพิ่มขึ้น 10.3 เปอร์เซ็นต์ที่ 5.63 ล้านคัน การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.53 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.9 เปอร์เซ็นต์
ยอดขายในประเทศของกลุ่มเพิ่มขึ้น 26.9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.21 ล้านคันในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากผลพวงของการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา และการขาดแคลนชิป
ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 4.21 ล้านคัน เนื่องจากการเติบโตในยุโรปถูกหักล้างบางส่วนจากยอดขายที่ลดลงในจีน
RZ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งคันที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ภายใต้แบรนด์ Lexus หนุนยอดขาย EV ของโตโยต้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าเป็น 46,171 คันในช่วงเวลาดังกล่าว
ในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ยอดขายทั่วโลกในครึ่งปีแรกของฮอนด้า มอเตอร์ ลดลง 3.3% เหลือ 1.84 ล้านคัน ในขณะที่ยอดขายทั่วโลกของนิสสัน มอเตอร์ แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.67 ล้านคัน
ยอดการผลิตทั่วโลกโดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 8 รายของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 8.5% เป็น 12.55 ล้านคันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากฟื้นตัวจากโรคระบาด และปัญหาคอขวดในการจัดหาชิ้นส่วน