เกียวโดนิวส์รายงาน (3 มี.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจยื่นขอศาลสั่งให้ผู้ต้องคดีใช้เครื่องติดตามจีพีเอสเพื่อป้องกันการหลบหนีความผิดศาล เนื่องจากคดีของคาร์ลอส กอส์น อดีตซีอีโอของนิสสัน มอเตอร์ และคดีอื่นๆ ที่จำเลยในคดีอาญาหลบหนีออกนอกประเทศ
ในขณะที่บางคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดเสรีภาพส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นผ่านการใช้อุปกรณ์ GPS ในลักษณะดังกล่าว คนอื่นๆ ก็หวังว่าจะอนุญาตให้เพิ่มจำนวนผู้ที่ได้รับการประกันตัว และเลี่ยงความแออัดของเรือนจำ
ด้วยการแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของประเทศ รัฐบาลวางแผนที่จะเอาผิดกับผู้ต้องสงสัยในคดีที่ไม่ปรากฏตัวในศาลและผู้ที่ออกจากถิ่นที่อยู่หรือถอดอุปกรณ์ติดตามตัวออกโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเป้าหมายที่จะผ่านร่างกฎหมายผ่านรัฐสภาในช่วงสมัยปัจจุบัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีบุคคลหลายคนหลบหนีระหว่างการประกันตัว รวมถึงกอส์น วัย 68 ปี ที่หลบหนีไปเลบานอนจากญี่ปุ่นในปี 2562 หลังถูกจับกุมในข้อหารายงานค่าตอบแทนต่ำกว่าความเป็นจริงและใช้เงินของนิสสันในทางมิชอบตามกฎหมาย
ผู้ที่ถอดจีพีเอสออกโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม เช่น ทางอากาศหรือท่าเรือ อาจถูกควบคุมตัวและรับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ซึ่งเป็นบทลงโทษที่จะมีขึ้นในปี 2568
นอกจากนี้ ระบบ "ผู้ควบคุม" ใหม่จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบจำเลยต้องมาเข้าร่วมการพิจารณาคดีพร้อมกับพวกเขา และรับผิดชอบในการจัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของจำเลยในคดี
ภายใต้แผนการดังกล่าว ผู้ที่ได้รับการประกันตัวหากไม่ปรากฏตัวเมื่อศาลเรียกตัว หรือหากพวกเขาออกจากที่พักเป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 2 ปี
แม้ว่าขณะนี้จำเลยไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวในศาลในระหว่างการอุทธรณ์ แต่การแก้กฎหมายจะกำหนดให้จำเลยไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้หากพวกเขาถูกตัดสินจำคุกในศาลชั้นต้น
ในวันเดียวกันนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นยังตัดสินใจกำหนดมาตรการในการปฏิรูปกฎหมายอาญา เพื่อปกป้องเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ โดยให้เหยื่อไม่ต้องเปิดเผยตัวตน