เกียวโดนิวส์ (13 ธ.ค.) รายงานของรัฐบาลที่เปิดเผยเมื่อวันอังคาร การกระทำผิดของเด็กและเยาวชนในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากในฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ที่โรงเรียนทั่วประเทศปิดทำการท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งสวนทางอย่างมากกับการลดลงของจำนวนความผิดทางอาญาโดยรวม ซึ่งน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์หลังสงคราม
กระทรวงยุติธรรม แถลงว่า จำนวนผู้กระทำความผิดที่มีอายุระหว่าง 14 ถึง 19 ปีที่เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม 2563 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกลุ่มอายุที่มีโอกาสหันไปก่ออาชญากรรมมากขึ้น
สมุดปกขาวเกี่ยวกับอาชญากรรมแสดงจำนวนความผิดทางอาญาโดยรวม ซึ่งรวมถึงความผิดที่กระทำโดยเยาวชน ลดลงร้อยละ 3.5 เป็นร้อยละ 32.1 ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2020 จากปีก่อนหน้า
โรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย และโรงเรียนนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษทั่วประเทศปิดทำการตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2020 ตามคำร้องขอของรัฐบาลกลางหลังการระบาดของไวรัสเมื่อต้นปีดังกล่าว
ด้านจำนวนการกระทำความผิดทางอาญาโดยรวมต่อเดือนยังคงลดลงอย่างมากเมื่อเทียบปีต่อปีจนถึงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนการโจรกรรมที่ลดลง รวมถึงการลักขโมย ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของอาชญากรรม
รายงานประจำปีระบุว่า สาเหตุหลักมาจากการร้องขอจากรัฐบาลกลางและท้องถิ่นให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ จึงมั่นใจได้ว่าจะมีบ้านที่ไม่มีคนเฝ้าน้อยลงมาก
ตลอดปี 2564 จำนวนความผิดทางอาญา ที่ไม่รวมเหตุการณ์ขับรถจนมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ อยู่ที่ 568,104 ลดลง 7.5 เปอร์เซ็นต์จากปี 2563 และเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์หลังสงคราม
ด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์พุ่งขึ้น 23.6 เปอร์เซ็นต์ในปี 2564 จากปีก่อน ขณะที่เหตุการณ์ที่ผู้คนถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับน้อยลง เนื่องจากร้านอาหารปิดหรือจำกัดเวลาทำการภายใต้ข้อจำกัดของโควิดซึ่งมีผลเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ปี 2020
มาตรการควบคุมพรมแดนของโควิดยังส่งผลให้จำนวนการนำเข้ายาหรือสารเสพติด ผิดกฎหมายลดลงอย่างมาก โดยจำนวนการนำเข้าสารกระตุ้นลดลงร้อยละ 83.1 ในปี 2020 จากปีก่อนหน้า
การนำเข้ากัญชาซึ่งส่งทางไปรษณีย์ลดลงเพียง 15.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมชายแดนเกือบทั้งหมดในเดือนตุลาคม กระทรวงได้เรียกร้องให้มีมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อต่อต้านอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของผู้คนที่เดินทางเข้าประเทศ