โรงเรียนนานาชาติสบโอกาสดึงดูดเด็กจีนมาเรียน/เล่นสกีในญี่ปุ่น

สื่อต่างประเทศรายงาน (27 มิ.ย.) โรงเรียนนานาชาติขยายกิจการในประเทศญี่ปุ่น หวังดึงดูดเด็กหนุ่มสาวจากครอบครัวคนเอเชียที่ร่ำรวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน

โรงเรียนประจำจากอังกฤษ เช่น Rugby School และ Malvern College กำลังจัดตั้งวิทยาเขตในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเปิดรับนักเรียนใหม่มากกว่า 3,000 คนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการขยายการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2018

ด้วยค่าเล่าเรียนรายปีที่สามารถเรียกเก็บได้สูงถึง 9.3 ล้านเยน (2.4 ล้านบาท) โรงเรียนเหล่านี้คาดหวังว่าจะดึงดูดลูกหลานผู้มีฐานะ จากโปรแกรมหลักสูตรอินเตอร์ และกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นสกี

กระแสการเติบโตนี้ตรงกันข้ามกับจีน ที่มีแต่มาตรการหยุดชะงัก ชะลอเพื่อควบคุมการระบาดใหญ่ และการควบคุมสถานศึกษา ซึ่งกำลังผลักดันครอบครัวทั้งชาวต่างชาติและคนในท้องถิ่น

“เรากำลังมองหาโอกาสการศึกษานอกประเทศจีน” มิก ฟาร์ลีย์ ผู้อำนวยการคนใหม่ของโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ สกีรีสอร์ท Appi ของญี่ปุ่นกล่าว

โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เป็นโรงเรียนที่มีศิษย์เก่าชื่อดัง ทั้งที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและสมาชิกราชวงศ์อีกหลายคน ได้ขยายให้บริการการศึกษาระดับอินเตอร์ในเอเชียและโดยเฉพาะจีน แต่ “ข้อเสนอการศึกษาในประเทศจีนนั้นซับซ้อนมาก มีการควบคุมมากขึ้น ควบคุมได้มากขึ้นเมื่อพูดถึงโรงเรียนต่างประเทศและโรงเรียนส่วนบุคคลแบบสองภาษา” เขากล่าว

ในเดือนสิงหาคมปีการศึกษานี้ โรงเรียนรับนักเรียนประจำใหม่ 180 คน โดยชำระค่าเล่าเรียนรายปีเริ่มต้นที่ 8.5 ล้านเยน ฟาร์ลีย์ คาดว่าในจำนวนนี้จะเป็นชาวจีนจำนวนมาก หลังจากรัฐบาลจีนได้ควบคุมความพยายามด้านการศึกษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงและการแสดงความมั่งคั่งอย่างโอ้อวดของสถานศึกษาในจีน

การวิจัยของ ISC ผู้ให้ข้อมูลด้านการศึกษาระบุว่า โรงเรียนนานาชาติในจีนซึ่งเจ้าของเป็นคนท้องถิ่นนั้นเติบโตขึ้นมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ก่อนที่จะมีนโยบายการควบคุมของรัฐบาลจีน

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มการพัฒนาไปสู่ลัทธิชาตินิยมในอุดมการณ์ของ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ไม่เห็นด้วยกับอิทธิพลของต่างประเทศหรือระดับโลก

เมื่อต้นปีนี้ Harrow Beijing ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของพลเมืองจีน ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนในโรงเรียนต่างประเทศ

นโยบาย Covid Zero ของจีนยังเป็นปัจจัยในการคำนวณอีกด้วย การล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อและการเรียนทางไกลยังคงมีอยู่มากกว่า 2 ปีนับตั้งแต่เริ่มระบาด

ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นได้กลับมาเปิดประเทศอย่างช้าๆ ในขณะที่ยังคงรักษาจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดต่ำที่สุดในโลก

รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้วางมาตรการจูงใจเพื่อดึงดูดเงินลงทุนโรงเรียนส่วนบุคคลด้วยนโยบายที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถขอลดหย่อนภาษีได้ง่ายขึ้น และทำให้ขั้นตอนการเปิดสำนักงานและการขอวีซ่าง่ายขึ้น

ทั้งนี้ มีความคาดการณ์อีกว่า เม็ดเงินจากค่าเล่าเรียนรวมสำหรับโรงเรียนนานาชาติในญี่ปุ่น คาดว่าจะสูงถึง 979 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 766 ล้านดอลลาร์เมื่อห้าปีก่อน

“ครอบครัวที่ร่ำรวยอาจตระหนักถึงข้อเสียของการอยู่ในประเทศจีนและฮ่องกง และกำลังคิดที่จะย้าย” มานาบู มูราตะ ผู้อำนวยการ Seven Seas Capital Holdings นักลงทุนและตัวแทนของโรงเรียนต่างประเทศในญี่ปุ่นกล่าว "โรงเรียนอย่างฮาร์โรว์ ดูเหมือนจะต้องการครอบครองตลาดนี้ ซึ่งยังส่งผลกับการลงทุนในชุมชนท้องถิ่น เช่น โดยการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยพื้นที่ใกล้เคียง"