เจแปนทูเดย์ รายงาน (24 มิ.ย.) ว่า เมืองอามากาซากิในจังหวัดเฮียวโงะ ต้องพบกับเรื่องปวดหัว ยอมรับว่าผู้รับเหมาทำ USB ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 460,000 คนหาย
ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงชื่อ เพศ ที่อยู่ วันเกิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของชาวเมืองทั้งหมด โดยนอกเหนือจากข้อมูลทะเบียนผู้อยู่อาศัยขั้นพื้นฐานที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว หน่วยความจำ USB ยังมีข้อมูลภาษีที่อยู่อาศัย 360,573 ข้อมูล และบัญชีธนาคารของครัวเรือนที่ได้รับการคุ้มครองการดำรงชีพและเงินช่วยเหลือเด็ก และสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับครัวเรือนที่ได้รับการยกเว้นภาษี 86,026 ข้อมูล กับข้อมูลครัวเรือนเป้าหมาย 82,716 ครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดในเมมโมรีสติ๊กนั้นถูกล็อกด้วยรหัสผ่าน และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "ไม่มีวี่แววว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยบุคคลภายนอก" และได้แจ้งความไปยังตำรวจซึ่งกำลังสอบสวนติดตามอยู่
newsdirectory 3 สื่อญี่ปุ่นตั้งคำถามเหตุการณ์นี้ว่า ความผิดพลาดนี้มีเฉพาะเมืองอามากาซากิ หรือยังมีรัฐบาลท้องถิ่นอื่นๆ ด้วยหรือไม่? จัดการข้อมูลส่วนบุคคลในหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นกันอย่างไร? แม้หน่วยความจำ USB ที่สูญหายนั้นมีรหัสผ่าน แต่ก็มีผู้ที่สามารถเจาะรหัสผ่านดังกล่าวได้
มีอีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับปัญหานี้ คนที่เมาและกระทำความผิดครั้งนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของเมืองอามากาซากิ แต่เป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่ได้รับมอบหมายจากเมืองอามากาซากิ อย่างแรกเลย เป็นเรื่องแปลกที่มีระบบที่พนักงานคนหนึ่งของบริษัทเอกชนสามารถจัดการกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับพลเมืองได้เป็นจำนวนมาก มันควรจะน่ากลัวมากใช่มั้ย?
เทศบาลเมืองอามากาซากิในจังหวัดเฮียวโงะกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ผู้รับเหมางานในโครงการบรรเทาทุกข์จากโรคระบาดในเขตเทศบาล ซึ่งยังไม่เปิดเผยชื่อ ได้นำเมมโมรีสติ๊กซึ่งบันทึกข้อมูลผู้อาศัยของเมืองพกติดตัวออกไประหว่างดื่มหลังเลิกงาน และสูญหายไปเมื่อเย็นวันอังคาร
“เราเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เราได้ทำลายความไว้วางใจของประชาชนในการบริหารเมือง” เจ้าหน้าที่อามากาซากิ กล่าวในการแถลงข่าว
ข้อมูลประชากรเมืองถูกคัดลอกไปยังเมมโมรีสติ๊ก ยูเอสบี การ์ดแบบพกพาชนิดหนึ่ง เพื่อสะดวกในการถ่ายโอนไปยังศูนย์บริการในโอซากาที่อยู่ใกล้เคียง