xs
xsm
sm
md
lg

“อัจฉริยะ” แจ้งจับ “พล.ต.ต.-พ.ต.อ.” ภาค 1 ส่งหลักฐานคดีแตงโมให้คนนอก วอนแม่อย่าถอนฟ้องตรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online -อัจฉริยะ” ร้อง ปปป.ดำเนินคดี 2 นายตำรวจยศ “พล.ต.ต.- พ.ต.อ.” ภาค 1 ปมส่งภาพใบพัดเรือเทียบแผลที่ขา “แตงโม” ให้คนนอก วอนแม่ภนิดาอย่าถอนฟ้องตรง เพราะศาลนัดไต่สวน 20 ก.ค.นี้แล้ว

วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเมื่อเวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายตำรวจยศ “พล.ต.ต.” และ ยศ “พ.ต.อ.” สังกัด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รวม 2 นาย ในข้อหา “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการกระทำโดยประการใดๆ อันมิชอบหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับ” จากคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ตามมาตรา 164 และ 157

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีนายตำรวจทั้งสองนาย จากการนำภาพศพของแตงโมมาเทียบเคียงกับใบพัดเรือ ส่งต่อไปให้อดีตศัลยแพทย์ท่านหนึ่ง โดยตนเองมองว่า เป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องในคดี การนำหลักฐานในคดีออกไปให้คนนอกดู จึงถือว่าเป็นความผิด ตามมาตรา 164 และ 157 ซึ่งเป็นคนละกรณีกับเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในเรื่องของการสร้างหลักฐานเท็จและกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางคดีอาญา

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ไม่เคยพูดว่ามีคลิปที่บันทึกเหตุการณ์ตอนกรีดขาแตงโม แต่เป็นคลิปเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงที่มาของบาดแผลว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรืออัยการ เข้ามาช่วยตรวจสอบตัวเรือเพื่อหาร่องรอยเลือดตามจุดที่ปรากฏในหลักฐานของตนเอง เพื่อให้คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักฐานที่ตนเองมีอยู่ ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่า เหตุใดหน่วยงานต่างๆ จึงไม่กล้าที่จะตรวจสอบเรือ ตามที่ตนเองร้องขอ ซึ่งหากมีการยอมตรวจเรือลำดังกล่าว ตนจะพาชี้จุดที่ปรากฏรอยเลือดที่อยู่ในหลักฐานของตนเองเพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นเลือดของบุคคลใด หากมีการตรวจพบก็จะสามารถยืนยันในหลักฐานของตนเองได้ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม หรืออัยการก็สามารถนำหลักฐานของตนเองเข้าไปประกอบคดีและฟ้องในข้อหาฆาตกรรมได้ อย่างไรก็ตาม หลักฐานอื่นนั้นตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผู้ที่ให้หลักฐานมาจะไม่ปลอดภัย และธุรกิจได้รับความเสียหาย

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ตนถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้น มีการเร่งรัดให้ไปพบพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคำสั่งของใครก็จะไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อน เพราะเชื่อว่าไม่มีความผิด ขณะนี้โดนแจ้งความทั้งหมด 6 คดี แจ้งความโดยตำรวจ 4 คดี แจ้งความโดย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา 2 คดี ซึ่งจะฟ้องกี่ร้อยคดีก็ได้พร้อมสู้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายกับเรื่องเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ต้องไปต่อสู้โดยการนั่งอยู่กลางถนน เพราะไม่รู้ข้อกฎหมาย แต่ตอนนี้มีทั้งทีมงานและมีประสบการณ์แล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ จะไปแจ้งความเอาผิดกับนายเดชา ที่ สภ.เมืองพระประแดง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องของรายการโหนกระแสเมื่อวาน (23 มิ.ย.) อย่างน้อยทำให้คนบนเรือเกิดการระแวงกันว่าใครนำหลักฐานมาให้ตน และทำให้เห็นว่า มีบางคนร้อนรน แต่ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต กลับไม่ติดต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก และตนเองก็อยากดีเบทกับนายไพบูลย์อยู่แล้ว ส่วน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ตนไม่คิดว่าจะมาที่รายการ แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ถือว่า นายษิทรา แทรกแซงการทำงาน โดยหลังเกิดประเด็นขึ้นเมื่อวาน ก็ได้ปรับความเข้าใจกับ นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม แล้ว เมื่อเช้านี้ ส่วน นายษิทรา นั้น หากอยากช่วยตนจริง ก็พร้อมให้ไปด้วยกันทุกครั้ง

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ นางภนิดา ที่มีข่าวว่าจะถอนฟ้องคดีที่ตนเองได้ฟ้องตรงนั้น ขณะนี้ทราบว่ายังไม่มีการถอนฟ้องแต่อย่างใด และไม่อยากให้ถอนฟ้อง เพราะหากมีการถอนฟ้องทุกสิ่งที่ตนเองทำมาจะหายไป และนางภนิดาจะไม่สามารถฟ้องในข้อหาเดิมซ้ำได้ เพราะจะถือเป็นการฟ้องซ้ำ ซึ่งในส่วนของคดีที่ตนเองมีการฟ้องตรงไปจะมีการไต่สวนในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

“ส่วนเรื่องที่นางภนิดาจะเป็นแม่ของแตงโมจริงหรือไม่นั้น อยากให้นำภาพขณะตั้งท้องมา รวมถึงหากตรวจดีเอ็นเอ ทุกอย่างก็จะสิ้นข้อสงสัย ส่วน นายวรินทร วัตรสังข์ หรือ แอนนา ที่ออกมากล่าวยืนยันนั้น ไปทำคดีหวยให้จบก่อนดีกว่า” นายอัจฉริยะกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น