ผู้ที่รอเข้าประเทศญี่ปุ่นจำนวนมากเผชิญความโกลาหล เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งห้ามชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้าประเทศอย่างเร่งด่วน หลังจากเพิ่งผ่อนปรนมาตรการควบคุมพรมแดนได้เพียงไม่ถึง 1 เดือน
นายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ประกาศเพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมเข้าประเทศ โดยระงับการออกวีซ่าใหม่ทุกกรณี และห้ามชาวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศ มีผลตั้งแต่เวลา 0.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ห่างจากระยะเวลาที่ผู้นำญี่ปุ่นประกาศเพียงแค่ราว 12 ชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งผ่อนปรนให้นักธุรกิจ นักศึกษา และคนทำงานเดินทางมาญี่ปุ่นได้และลดเวลาการกักตัว บรรดานักศึกษาและกลุ่มวีซ่าใหม่ที่รอคอยเข้าประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 2 ปีจำนวนมากต่างเร่งขอเข้าประเทศ สถานศึกษาและที่ทำงานต้นสังกัดก็เร่งทำเอกสารจำนวนมาก แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดลงเพราะมาตรการล่าสุดนี้
อ่านเพิ่มเติม: ญี่ปุ่นปิดพรมแดนอีกครั้งสกัด "โอไมครอน" หลังเพิ่งผ่อนปรนได้ไม่ถึง 1 เดือน
ที่สนามบินในญี่ปุ่น มีป้ายประกาศมาตรการที่ใช้กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงจากไวรัสสายพันธุ์ “โอไมครอน” และกลุ่มประเทศอื่น ๆ ที่มีความเข้มงวดและระยะเวลากักตัวแตกต่างกัน ชาวญี่ปุ่นและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศหลายคนไม่ทันตั้งตัวกับมาตรการล่าสุด ซึ่งประกาศใช้อย่างกะทันหัน
ในเบื้องต้น รัฐบาลจะใช้มาตรการห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศญี่ปุ่นรัฐบาลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อรอให้มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน
คณะผู้เชี่ยวชาญหนุนควบคุมเข้มงวด
การตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นได้รับการสนับสนุนจากคณะที่ปรึกษา ซึ่งลงความเห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่ “หละหลวม” เช่น ลดเวลากักตัวเหลือน้อยที่สุดเพียง 3 วัน และให้กักตัวที่บ้านของตัวเองได้ ซึ่งเปิดช่องให้ผู้ที่กักตัวเดินทางออกไปในที่ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ถูกติดตาม
ถึงแม้ขณะนี้ ญี่ปุ่นยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพบผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนามิเบียคนหนึ่งติดเชื้อโควิด และกำลังตรวจพิสูจน์สายพันธุ์ของผู้ติดเชื้อรายนี้
สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่นได้กำหนดให้ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่น่ากังวล หลังจากพบการกลายพันธุ์ 30 จุดในโครงสร้างโปรตีนตรงส่วนหนาม หรือสไปก์โปรตีนบนพื้นผิวของไวรัสนี้ มากที่สุดในหมู่ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ทั้งหมดที่ได้ตรวจพบมา สร้างความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่าไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้อาจแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลง และเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อซ้ำแม้ว่าจะได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วก็ตาม
คณะผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาของรัฐบาลเสนอให้บังคับใช้การกักตัวเป็นระยะเวลาหนึ่งกับผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นทุกคน รวมทั้งชาวญี่ปุ่น และผู้มีสิทธิ์พำนักในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งขณะนี้ยังเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ตามมาตรการล่าสุด
นายกฯ ใหม่เผชิญแรงกดดันทางการเมือง
การตัดสินใจใช้มาตรการที่เข้มงวดอย่างรวดเร็วของนายคิชิดะ แตกต่างจากแบบธรรมเนียมของญี่ปุ่นที่จะยกระดับมาตรการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่เนื่องจากนายคิชิดะเพิ่งเป็นผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่นได้ราว 1 เดือนเศษ จำเป็นต้องแสดงให้ชาวญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นผู้นนำที่ตัดสินใจเด็ดขาดเพื่อควบคุมโรคโควิด หลังจากชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งเห็นว่า อดีตรัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ และนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ผ่อนปรนมาตรการควบคุมพรมแดนทำให้โรคโควิดระบาดหนัก
ขณะนี้ญี่ปุ่นผู้ติดเชื้อใหม่เพียงวันละราว 100 คน ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ ธุรกิจต่าง ๆ เพิ่งได้รับอนุญาตให้เปิดได้อย่างแทบไม่มีข้อจำกัดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทุกภาคส่วนจึงไม่ต้องการจะกลับไปถูกควบคุมอย่างเข้มงวดอีกครั้ง .