โรงพยาบาลในจังหวัดนารายอมรับความผิดพลาด ที่ฉีดน้ำเกลือให้กับผู้ที่เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิดจำนวน 54 ราย ซึ่งมีทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุ
คณะแพทย์ประจำโรงพยาบาลเมืองอิโกมะ จังหวัดนารา ออกมาขออภัยต่อสาธารณชนหลังพบว่า การฉีดวัคซีนในช่วง 14.00-16.00 น. ของวันที่ 28 เมษายน เกิดความผิดพลาด โดยขั้นตอนปกติในการฉีดวัคซีนจะใช้น้ำเกลือผสมกับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ และใช้เข็มฉีดยาดูดแบ่งสำหรับผู้รับการฉีดแต่ละราย
แต่ในระหว่างกระบวนการเตรียมวัคซีน พยาบาลคนหนึ่งพบว่ามีวัคซีนขวดหนึ่งที่ไม่ได้ถูกนำไปผสมกับน้ำเกลือ จึงตรวจสอบดูและพบว่าในหลอดฉีดยาจำนวนหนึ่งเป็นน้ำเกลือบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ผสมวัคซีน
ทางโรงพยาบาลยอมรับว่า ถึงแม้น้ำเกลือจะไม่มีอันตรายกับสุขภาพ แต่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันของผู้เข้ารับวัคซีน 54 คนในช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่มีภูมิคุ้มกันหรือมีภูมิระดับต่ำกว่ามาตรฐาน จะต้องรับวัคซีนซ้ำอีกครั้ง
นพ.คิโยชิ เอนโดะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระบุว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีพยาบาล 5 คนรับผิดชอบเรื่องการผสมและฉีดวัคซีน พร้อมขออภัยในความบกพร่องที่เกิดขึ้น
ความผิดพลาดในการฉีดวัคซีนโควิดอีกกรณีหนึ่งเกิดขึ้นที่เมื่อโกเบ ทางการต้องทิ้งวัคซีน 960 โดส หลังเผลอทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติประมาณ 3 ชม. ทำให้วัคซีนเสื่อมสภาพ เพราะต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำ -70 องศาเซลเซียส
การฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่นล่าช้าอย่างมาก ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เพียงแค่ราว 1,320,000 คน หรือราว 1% ของประชากรทั้งประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ สำนักงานอาหารและยาของญี่ปุ่นยังอนุมัติให้ใช้เฉพาะวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์เท่านั้น ส่วนวัคซีนของโมเดิร์นนา และแอสตราเซเนากา ที่ขอใช้ในญี่ปุ่นเช่นกันยังไม่ได้รับการอนุมัติ แม้จะผ่านมานานหลายเดือน.