หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นแต่งคอสเพลย์ฉลองเทศกาลฮาโลวีน หลายคนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่บอกว่า “โควิดเป็นเรื่องลวงโลก ปลดหน้ากากกันเถอะ”
เทศกาลฮาโลวีนค่ำคืนวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาในย่านชิบูยะ กลางกรุงโตเกียว ยังคึกคัก ถึงแม้ทางการญี่ปุ่นจะขอร้องให้อย่ารวมตัวกันท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิดที่ยังไม่คลี่คลาย แต่หนุ่มสาวจำนวนมากก็ไม่ได้ประหวั่นพรั่นพรึง แปลงโฉมเป็นภูตผีออกมาเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน
ฮาโลวีนที่ญี่ปุ่นในปีนี้เป็นปีแรกที่บรรดาผีหนุ่มสาวต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ก็บรรยากาศก็ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมาก งานดังกล่าวไม่มีเจ้าภาพ ไม่มีผู้จัดงานอย่างเป็นทางการ บรรดาวัยรุ่นได้นัดหมายกันผ่านโลกออนไลน์ แต่งคอสเพลย์มารวมตัวกันเองเป็นประจำทุกปี
วัยรุ่นที่ออกมาร่วมในเทศกาลวันปล่อยผีบอกว่า กลัวโควิดอยู่บ้าง แต่ก็อยากจะผ่อนคลายสนุกสนาน จึงป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย
อย่างไรก็ตาม ก็มีกลุ่มที่ประกาศว่า “โควิด-19 เป็นเรื่องโกหก” พร้อมรณรงค์ให้ผู้คนถอดหน้ากากอนามัย เปิดเผยรอยยิ้มให้แก่กัน ยกเลิกการตรวจหาเชื้อไวรัส กลุ่มดังกล่าวเปิดแสดงดนตรีที่ด้านหน้าสถานีรถไฟชิบูยะ
ทางการเขตชิบูยะได้พยายามที่จะลดการรวมตัวของผู้คน เช่น การเชิญศิลปินดังมาจัดกิจกรรมฮาโลวีนทางออนไลน์ มีเกมและคอนเสิร์ตที่ถ่ายทอดผ่านเว็บไซต์เพื่อให้ผู้คนฉลองเทศกาลอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีมาตรการ “สร้างความไม่สะดวก” เช่น ไม่เปิดห้องน้ำตามสถานีรถไฟเพื่อไม่ให้บรรดาวัยรุ่นใช้เป็นสถานที่เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย รวมทั้งลดจำนวนถังขยะในพื้นที่ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านสะดวกซื้อ
เขตชิบูยะยังขึ้นป้ายรณรงค์ขนาดใหญ่ มีข้อความว่า “ผู้ติดเชื้อเป็น 0 พฤติกรรมก่อกวนเป็น 0” “ฮาโลวีนปีนี้งดออกนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย” แต่มาตรการเหล่านี้ก็ไม่ได้มีผลมากนัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยอำนวยความสะดวกประชาชนและจัดการสัญจรบอกว่า หนุ่มสาวออกมาที่ย่านชิบูยะในวันฮาโลวีนน้อยกว่าทุกปีเพราะการระบาดของโควิด แต่คาดว่ายังมีผู้คนออกมารวมตัวกันหลายหมื่นคน
ร้านค้าในย่านชิบูยะบอกว่า ปกติแล้วเทศกาลฮาโลวีนจะขายดิบขายดี แต่ในปีนี้จำต้องบอกให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการมารวมตัวกัน เพราะหากโควิดระบาดขึ้นอีก และต้องมีมาตรการปิดร้านเหมือนที่ผ่านมา จะยิ่งสร้างงความสูญเสียทางธุรกิจ
เมื่อปีที่แล้ว ตำรวจและทางการเขตชิบูยะเน้นการรับมือความวุ่นวายและอาชญากรรม หลังจากมีวัยรุ่นคึกคะนอง พลิกคว่ำรถสายตรวจและทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ แต่ปีนี้การสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิดกลายเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด.
