นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า จะเปิดรับชาวต่างชาติให้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้วันละ 20,000 คน และจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้เพียงพอสำหรับพลเมืองทุกคนภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
นายซูงะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยเน้นไปที่การรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดน้อยลง แต่รัฐบาลยังไม่วางใจสถานการณ์ จะป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน และในขณะเดียวกันก็จะเริ่มขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคม พลิกฟื้นเศรษฐกิจ
นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า มีเป้าหมายเปิดรับชาวต่างชาติให้สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้วันละ 20,000 คน เฉพาะจากภาคธุรกิจและภาคการศึกษาภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน และยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมายังญี่ปุ่น โดยรัฐบาลจะเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาเชื้อเพื่อรองรับผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศ
นอกจากนี้ นายซูงะยังกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
โดยจะออกกฎหมายเพื่อกำหนดขั้นตอนการจัดหา แจกจ่าย รวมทั้งภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทางการท้องถิ่น รวมถึงประชาชนว่าต้องจ่ายค่าวัคซีนเท่าไหร่
การรับมือไวรัสโควิดและแจกจ่ายวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดให้ให้นักท่องเที่ยวมายังญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นราวเดือนมีนาคม ปีหน้า รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในตั้งแต่ 23 กรกฎาคม - 5 กันยายน.