ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นก่อคดีฆ่าหั่นศพและหนีไปกบดานที่แอฟริกาใต้นานถึง 17 ปี มอบตัวต่อสถานทูตญี่ปุ่น ขอเดินทางกลับมารับโทษในประเทศ หลังจากโควิดระบาดหนักจนแอฟริกาใต้ปิดประเทศ อยู่ต่อไม่ไหว
นายโซ คามิยะ วัย 46 ปี เดินทางกลับมาถึงญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยเที่ยวบินพิเศษ เขาต้องสวมหน้ากากอนามัยและเฟชชิลด์ รวมทั้งเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด หลังจากพบว่าไม่ติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวในข้อหาฆาตกรรม ทำลายและอำพรางศพ
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2546 นายโช คามิยะ ร่วมกับนายมัตสึอิ โทโมยูกิ จับตัวนายชินยะ โคกาวะ วัย 26 ปี ที่เป็นพนักงานของไนท์คลับแห่งหนึ่งจากลานจอดรถที่เมืองอิชิกาวะ จังหวัดชิบะ ทั้งคู่ลงมือฆ่านายโคกาวะ จากนั้นก็หั่นศพแยกชิ้นส่วนนำไปทิ้งไว้ในป่าที่จังหวัดยามานาชิ และเมืองโอคุทามะ ชานกรุงโตเกียว
ตำรวจพยายามจับตัวนายคามิยะและพวกมารับโทษตามกฎหมาย แต่เขาได้หนีไปฮาวายและต่อไปยังแอฟริกาใต้ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่นต้องขึ้นบัญชีดำหมายจับกับตำรวจสากลนานถึง 17 ปี
โควิดระบาดอยู่ต่อไปไหว กลับญี่ปุ่นกินข้าวคุก
จนกระทั่งวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา นายคามิยะได้เดินทางไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ประจำแอฟริกาใต้ พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และต้องการมอบตัวกลับประเทศญี่ปุ่น
เมื่อตรวจสอบยืนยันตัวตนจากลายนิ้วมือแล้ว นายคามิยะเผยว่าที่ตัดสินใจมอบตัวหลังจากกบดานนานถึง 17 ปี ก็เพราะว่าไม่มีเงินเหลือแล้ว ไวรัสโควิดระบาดทำให้เขาตกงาน และเพื่อนร่วมห้องของเขาก็ยังติดเชื้อโควิดด้วย
นายคามิยะสารภาพว่า เขาร่วมกับนายโทโมยูกิเป็นแก็งค์ปลอมแปลงบัตรเครดิต โดยให้นายโคกาวะ (ผู้ตาย) ลักลอบคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้า แต่นายโคกาวะไม่ยอมทำตามและเกิดขัดแย้งทางการเงินกัน จึงลักพาตัวนายโคกาวะและสังหารในที่สุด
ทั้งนี้ นายมัตสึอิ โทโมยูกิที่ร่วมกับนายคามิยะก่อเหตุและได้หนีไปแอฟริกาเช่นกัน ได้ฆ่าตัวตายแล้วเมื่อปี 2559 โดยพบศพของเขาผูกคอตายกับต้นไม้ที่ชายทะเลเมืองเดอร์บัน ในแอฟริกาใต้
แอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 630,000 คนจนต้องปิดประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไม่มีเที่ยวบินระหว่างญี่ปุ่นและแอฟริกาใต้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้นำตัวนายคามิยะกลับญี่ปุ่นโดยเที่ยวบินพิเศษที่ส่งพลเมืองของประเทศต่างๆ กลับภูมิลำเนาที่ออกเดินทางจากการ์ตาร์ โดยนายคามิยะเดินทางกลับมาเพียงลำพังไม่มีตำรวจของญี่ปุ่นไปรับตัวที่ต้นทาง เนื่องจากการระบาดของโควิด.