คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่า การระบาดของเชื้อไวรัสไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ผ่านช่วงสูงสุดทั่วประเทศมาแล้ว ขณะนี้ต้องฝากความหวังไว้กับการพัฒนาวัคซีน ซึ่งรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญให้กับบุคลากรการแพทย์ ผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวก่อน
จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายวันในญี่ปุ่นเริ่มมีแนวโน้มค่อยๆ ลดลง หลังจากมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในช่วงตั้งแต่วันที่ 27 ถึง 29 กรกฎาคมทั่วประเทศในกรุงโตเกียว จังหวัดโอซากา และจังหวัดไอจิ และช่วงกลางเดือนสิงหาคมในจังหวัดฟูกูโอกะและโอกินาวา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจำเป็นต้องเฝ้าระวัง เพราะยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดระบาดหนักอีกระลอกเนื่องจากขาดข้อมูลช่วงวันหยุดเทศกาล “โอบง” กลางเดือนสิงหาคม และจำนวนผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่ยังคงนิ่งอยู่ที่ระดับสูงสุด ไม่ได้ลดจำนวนลง
คณะผู้เชี่ยวชาญยังเตือนให้เฝ้าระวังการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในสถานดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาล รวมทั้งจำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่กำลังเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด เช่น โอซากาและโอกินาวา ซึ่งอาจทำให้ระบบการรักษาพยาบาลที่มีอยู่รองรับไม่ไหว
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับบริษัทผลิตยาของอังกฤษและประเทศอื่น ๆ เพื่อจัดหาวัคซีนต้านไวรัสโควิดให้ได้เร็วที่สุด หลังจากวัคซีนได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้ใช้งานจริงได้
คณะผู้เชี่ยวชาญเห็นชอบในแผนของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่จะจัดสรรวัคซีนให้แก่บุคลากรด้านการแพทย์ ผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวเป็นกลุ่มแรก เพราะบุคลากรด้านการแพทย์เผชิญความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงกว่า และผู้สูงอายุกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพก็มีแนวโน้มว่าจะป่วยหนักหากติดเชื้อ
ผู้เชี่ยวชาญยังจะศึกษาต่อไปว่าจะให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนเป็นลำดับต่อไป คือ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ศูนย์สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์
นายโอมิ ชิเงรุ หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ประชาชนคาดหวังต่อวัคซีนโรคโควิดอย่างมาก รัฐบาลควรทำเต็มที่เพื่อจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประชาชน และดำเนินการโดยเร็วหากต้องซื้อวัคซีนจากต่างประเทศ.