ญี่ปุ่นออกประกาศเตือนภัยฝนตกหนักระดับสูงที่สุดในจังหวัดกิฟุ และ นางาโนะ เมื่อเช้าวันนี้ หลังจากฝนกระหน่ำสร้างความเสียหายหนักในภูมิภาคคิวชู ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเช่นนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนถึงวิกฤตภาวะโลกร้อนอย่างชัดเจน
สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด จากแนวฝนที่เคลื่อนจากตอนใต้สู่ตอนกลางของประเทศ และทำให้เกิดฝนตกหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ของจังหวัดกิฟุ และ นากาโนะ และคาดการณ์ว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องจะขยายพื้นที่ในเขตตอนกลาง (เมืองนาโงยาและใกล้เคียง) และพื้นที่เขตคันโต (นครโอซากาและใกล้เคียง) ในวันนี้และตลอดสัปดาห์
ถึงแม้ช่วงนี้ญี่ปุ่นจะอยู่ในฤดูฝน แต่ฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องไม่ลดความรุนแรงลงเช่นนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์ปกติ เพราะช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูมรสุมและไม่มีพายุแต่อย่างใด
ฝนตกหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายสิบปีได้เริ่มถล่มจังหวัดคูมาโมโตะ, คาโงชิมะ ในภูมิภาคคิวชู เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. หลังจากนั้นแนวฝนก็เคลื่อนตัวขึ้นเหนือโดยไม่ลดกำลังลงเลย และกระหน่ำจังหวัดนางาซากิ ซางะ และ ฟูกูโอกะ ในวันต่อมา จนในวันนี้ได้เคลื่อนมาถึงจังหวัดกิฟุ และ จังหวัดนางาโนะ ทุกพื้นที่ที่แนวฝนเคลื่อนผ่าน สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดทั้งหมด ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในภูมิภาคคิวชู มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คน และสูญหายอีกกว่า 10 คน ผู้เสียชีวิตหลายคนเป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถหลบหนีขึ้นที่สูงได้ทัน ตอนที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและกระหน่ำเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว จนถึงเมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) รัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ ในญี่ปุ่นได้อพยพประชาชนแล้วมากกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน
ชาวเมืองคูมามาโตะบอกว่า คาดไม่ถึงว่าไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต ฝนตกหนักมากจนทำให้น้ำพังตลิ่ง และไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็วเหมือนกับคลื่นสึนามิ หลายคนเพิ่งซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังพินาศหมด
ความพยายามอพยพผู้ประสบภัยยุ่งยากมากขึ้น เมื่อเกิดในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ การเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้ศูนย์พักพิงต่างๆ รองรับผู้ประสบภัยได้น้อยลง ศูนย์พักพิงต้องใช้กระดาษแข็งทำเป็นกำแพงกั้นแยกแต่ละครอบครัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ชาวบ้านบางส่วนตัดสินใจเลือกนอนในรถแทน เพราะไม่ต้องการเสี่ยงติดเชื้อในศูนย์พักพิง
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภัยพิบัติครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสร้างความเสียหายอย่างหนัก ถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีมาตรการเตือนภัยที่ดี แต่ก็มีความเสี่ยงอย่างสูงทั้งจากสภาพภูมิประเทศ และสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ทำให้การอพยพหลบภัยเผชิญกับอุปสรรค