รัฐบาลญี่ปุ่นจะเพิ่มขอบเขตในการตรวจผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากพบว่าผู้ติดเชื้อหลายรายไม่แสดงอาการ รวมทั้งจะพิจารณาอนุญาตให้บริษัทเอกชน สามารถทำการตรวจหาเชื้อไวรัสได้
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นกำลังเริ่มต้นพัฒนาชุดทดสอบ ที่จะตรวจหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้รวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งจะขยายการตรวจหาเชื้อไวรัสภายในประเทศ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นบังคับตรวจเชื้อสำหรับบุคคลที่มีอาการตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ ต้องมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส และมีอาการเข้าข่ายปอดบวม เช่น ไอ หายใจผิดปกติ นอกจากนี้ยังพิจารณาผู้ที่มีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น หรือ ติดต่อกับผู้ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น รวมทั้งผู้ที่มีอาการป่วย
บุคคลที่เข้าข่ายนี้จะถูกตรวจหาเชื้อไวรัส และรายงานให้ทางการทราบ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการอะไร ไม่มีประวัติไปประเทศจีน สะท้อนความเป็นไปได้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถติดต่อ “จากคนสู่คน” และแพร่ระบาดในชุมชนได้
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนเกณฑ์บังคับตรวจหาเชื้อจาก “อาการปอดบวม” เป็น “อาการด้านระบบหายใจ” รวมทั้งขยายการตรวจเชื้อกับผู้ที่เคยไปยังมณฑลหูเป่ย หรือติดต่อกับผู้ที่เคยไปมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตของกลุ่มเสี่ยงจาก “เมืองอู่ฮั่น” ออกไปเป็น “มณฑลหูเป่ย” ที่มีเมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก
รัฐบาลยังให้อำนาจทางการท้องถิ่นสั่งให้ผู้ที่ติดเชื้อตั้งเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลเฉพาะทาง และห้ามไปทำงานในระยะเวลาที่กำหนด กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเกณฑ์ใหม่นี้ให้กับสถานพยาบาล และทางการต่างถิ่นทั่วประเทศแล้ว ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังเปิดเผยว่า กำลังพิจารณาจะอนุญาตให้บริษัทเอกชน สามารถทำการตรวจหาเชื้อไวรัส นอกเหนือจากปัจจุบันที่การตรวจหาเชื้อทำโดยสถาบันของรัฐเท่านั้น
นายอาเบะกล่าวว่า จะเร่งการทำงานของระบบราชการ เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อต่าง ๆ และการบริหารจัดกรภาวะวิกฤตของภาครัฐควรจะได้รับอย่างปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ.