xs
xsm
sm
md
lg

ใครอยากไปทำงานญี่ปุ่น..โหดจัด "One operation "

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว อาทิตย์ก่อนผมเล่าเรื่องที่ผมไปญี่ปุ่นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีโอกาสได้ไปเยือนสถานที่เดิมๆ ที่ผมคุ้นเคย ไม่ว่าจะสถานที่เรียน ที่เที่ยว ร้านอาหารบริเวณมหาวิทยาลัย ได้ไปบ้านเพื่อน ได้ไปร้านคาราโอเกะกับเพื่อนเก่า หลายๆ ที่รู้สึกคุ้นตา รู้สึกประทับใจและรู้สึกว่ามันมีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ความทรงจำและหลายอย่างที่มันมีทั้งที่เปลี่ยนไปและไม่เปลี่ยนไป

ตอนที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยจนถึงช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ ผมตั้งวงดนตรีกับกลุ่มเพื่อน ก็จะนัดเพื่อนๆ ไปซ้อมดนตรีกันอยู่บ่อยๆ ตามสตูดิโอที่เราจองห้องได้ เคยไปซ้อมแถว Jimbocho อยู่หลายครั้ง ซ้อมเสร็จดึกดื่นก็พากันหาร้านทานอาหาร

ร้านหนึ่งที่พวกเรามักจะไปทานอาหารกันเป็นประจำเป็นร้านอาหารแบบ ファミレス FamiResu→Family Restaurant ที่คนญี่ปุ่นจะรู้ว่าเป็นร้านอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว คือมีอาหารที่ทานได้หลากหลายเหมาะกับทุกวัยในครอบครัว

ที่ร้านนี้เน้นขายเมนูสเต็กโดยจะเสิร์ฟมากับข้าวสวยร้อนๆ สลัด และซุปมิโซ ส่วนสเต็กก็มีให้เลือกหลายประเภท ทั้งสเต็กเนื้อ สเต็กไก่หรือว่าหมู ไส้กรอกและแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งเบียร์และน้ำผลไม้ โคล่า ต่างๆ มากมาย เมื่อ 20 ปีที่แล้วเวลาที่เราไปทานอาหารที่ร้านนี้ เราค่อนข้างจะตกใจราคากันมากเพราะว่าร้านอยู่กลางเมือง ย่านที่มีคนทำงานและไม่ไกลจากสถานีรถไฟด้วย ทำไมสามารถขายสเต็กที่ราคาชุดละไม่เกิน 1,200 Yen ได้ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ บางชุด ( รวมข้าวและเครื่องเคียง ) ราคาแค่ 7-8 ร้อยเยน พวกเราจึงไปฝากท้องกันอยู่เป็นประจำ ร้านนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มากแต่ตอนนั้นก็มีพนักงานเสิร์ฟที่เป็นคนญี่ปุ่น อยู่ประมาณ 2-3 คน และมีพ่อครัวต่างหาก


ล่าสุดที่ผมไปญี่ปุ่นมาเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมได้มีโอกาสไปธุระย่าน Jimbocho ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปเกือบจะ 20 ปี มองไปทางไหนก็มีความทรงจำ ร้านหนังสือมากมายพยายามหาโปรโมชั่นและจัดแต่งร้านให้เรียกลูกค้า เพื่อความอยู่รอดของตัวเองท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสังคมและผู้บริโภค การเข้ามาของโลกอินเตอร์เน็ตและโซเซียลมีเดีย

ผมเพลินกับร้านหนังสือเก่าจนเย็น เริ่มรู้สึกหิวจึงเดินหาร้านอาหารแถวนั้น ไม่ทันนึกถึงร้านสเต็กที่เคยทานหรอก อยากทานราเมนแต่บังเอิญไปหยุดตรงทางขึ้นร้านสเต็กพอดี จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อ 20 ปีก่อนเราเคยมาทานสเต็กที่นี่บ่อยๆ เลยรู้สึกว่าอยากลองขึ้นไปทานอีก

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ อยู่ชั้นสองของตึกเล็กๆ แห่งหนึ่ง แม้ว่ากาลเวลาจะทำให้สภาพตึกดูเก่าลงมาก แต่ด้วยความทรงจำดีๆ คิดว่าร้านนี้ยังคงเป็นร้านเสต็กที่อร่อยเหมือนเดิม ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีโต๊ะหรือที่นั่งทานได้ประมาณ 20 ที่ เมนูเป็นเมนูเดิมทุกอย่าง เหมือนเดิมจนตกใจ แค่เก่าตามกาลเวลา ผมตกใจมากร้านที่ยังคงสภาพเหมือนเดิมแค่มันดูเก่าลงเท่านั้น ขณะนั้นในร้านมีลูกค้านั่งอยู่ก่อนหน้าแล้วประมาณ 4-5 คน เมื่อผมเข้าไปนั่งก็มีพนักงานสาวคนหนึ่งเอาเมนูอาหารมาให้ แล้วบอกว่าจะมารับเมนูหลังจากที่เราเลือกอาหารได้แล้ว เมื่อผมเลือกอาหารที่อยากทานได้จึงกดปุ่มสัญญาณเรียกพนักงาน แล้วน้องพนักงานคนเดิมก็รีบมาทันที และรับสั่งอาหารตามออเดอร์ที่เราบอกไป

รออาหารสักพักนึงเราก็นั่งคุยกันไปพร้อมกับมองไปรอบๆ ร้าน ก็ต้องตกใจที่พบว่า ทั้งร้านมีพนักงานคือน้องคนนี้คนเดียว!! เป็นพนักงานหญิงต่างชาติที่ยังอายุไม่เยอะนัก พูดภาษาญี่ปุ่นได้ดี อาจจะเป็นคนจีนหรือเกาหลี ที่ผมตกใจก็เพราะว่าเธอทำหน้าที่ทั้งหมดคนเดียวในร้าน ตั้งแต่การรับออเดอร์ลูกค้า ทำอาหาร เสิร์ฟอาหาร รองรับลูกค้าเมื่อลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มเติม และคิดเงิน


ที่บอกไปนั่นคืองานหน้าร้านที่มองเห็นได้ แต่นอกจากนั้น เธอก็คงจะต้องทำงานอื่นๆ ในร้านด้วย เช่น เก็บกวาดโต๊ะ ล้างจาน เตรียมวัตถุดิบ เก็บล้างทำความสะอาดร้าน จัดโต๊ะ เตรียมเครื่องปรุงต่างๆ คือตอนแรกพวกเราคิดว่าเพื่อนเธออาจจะไปห้องน้ำหรือพักเบรคหรือเปล่าแต่เราก็นั่งที่ร้านกันเกือบชั่วโมงก็ไม่เห็นมีใครมาทำงานเพิ่ม ตั้งแต่ที่เรานั่งมามีเธอคนเดียวเท่านั้นที่มารับออเดอร์ ทำอาหารมาให้เราทาน ส่วนที่ทำอาหารเป็นเคาวน์เตอร์กั้นไว้เหมือนร้านซูชิ จึงมองเห็นได้ว่ามีคนอยู่ในส่วนนั้นหรือเปล่า เมื่อลูกค้าขอเติมน้ำเธอก็จะรีบวิ่งมาบริการ จนเรารู้สึกเกรงใจมาก แต่มันก็มีเรื่องที่เราต้องร้องขอให้เธอช่วยปรับปรุงอาหารให้จริงๆ คือ สเต็กเนื้อที่เราสั่งมานั้นมันดิบเกินไป ...

ตอนนั้นผมนั่งนึกๆ ในใจว่าจะขอให้ไปย่างเพิ่มหรือทนกินดี ..


(*´ω`) Mr.Leon:
つ艸と <เอ้าล่ะ กินก็ได้ ฉันจะกินล่ะนะ いただきます !!(*´人`) ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารนี้

(`∇´): รอเดี๋ยว !! มันยังไม่สุกเลยนะ

( ´・ω・) Mr.Leon: เอ้ นี่มัน สเต๊กแบบ medium rare ก็ได้อยู่น่ะ

( #`∇´) :บอกให้เขาเอาไปย่างอีกหน่อยจะดีกว่าน่ะ……

(´・ω・`;)Mr.Leon: เอ้… ก็บอกว่านี่มัน สเต๊กแบบ medium rare ไง ...いただきます(´-人-`;) ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารนี้

จริงๆ แล้วผมจะทนทานให้อยู่หรอกเพราะว่าสงสาร แต่ว่ามาคิดถึงเรื่องสุขภาพก็เลยขอให้น้องเค้าช่วยเอากลับไปย่างให้สุกกว่านี้อีกหน่อยจะดีกว่า เธอเอากะทะร้อนสเต็กที่ไม่สุกนั้นเข้าครัวและทำด้วยตัวเอง สักพักก็เอากลับมาเสิร์ฟให้ ที่ร้านสามารถเติมข้าวได้ฟรี แต่ผมก็ไม่กล้าเติมแล้ว และไม่กล้าเรียกใช้อะไรเธอด้วย และลูกค้าคนอื่นๆ ในร้านก็อาจจะคิดเช่นเดียวกัน

วันนั้นทำให้ผมทั้งรู้สึกย้อนความทรงจำ และหดหู่เล็กน้อยจากสภาพที่เห็น การทานอาหารที่ร้านนี้ มีเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกตกใจอยู่ 2 เรื่อง เมื่อเทียบกับสถานการณ์เมื่อ 20 ปีก่อน คือ


壱 ราคาของอาหารเท่าเดิมเลยครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเพิ่มขึ้นเลย ตอนนั้นพวกผมเป็นเด็กยังไม่ทำงานยังรู้สึกว่าราคาถูกมาก แต่ตอนนี้เขาสามารถขายที่ราคาเดิม มันหมายถึงอะไรบ้าง ?!! นอกจากราคาเดิมแล้ว ทุกๆ อย่างยังเหมือนเดิมเกือบหมดเลย ยกเว้นสิ่งแวดล้อมที่มันดูเก่าลงไปมาก

弐 จากเมื่อ 20 ปีก่อน จากร้านที่มีพนักงานญี่ปุ่น 3-4 คนช่วยกันทำงาน กลับกลายเป็นร้านที่มีพนักงานต่างชาติแค่คนเดียว (อาจจะมีคนอื่นสลับ แต่พูดถึงช่วงเวลาขณะที่ผมไปนั่งทาน ) พนักงานคนเดียวคนนี้ต้องทำงานทุกอย่างในร้าน และแม้ว่าช่วงเวลาอื่นที่พนักงานอื่นมาเข้าทำงานก็คงจะงานที่ทำคนเดียวเช่นนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีการทำงานในลักษณะนี้เยอะขึ้น ที่จริงมีมานานแล้ว เพียงแต่คนที่ทำทุกอย่างคนเดียวในร้านจะเป็นงานในช่วงเวลาที่ลูกค้าน้อยๆ เสียส่วนใหญ่ เป็นเวลาดึกๆ หลังเที่ยงคืน เป็นต้น สำหรับร้านนี้ถ้ามองอีกมุมหนึ่งที่ทำคนเดียวนี้อาจจะเป็นเพราะบริเวณนั้นเป็นย่านที่ไม่ใช่แหล่งวัยรุ่นหรือว่ามีคนพลุกพล่านมากนักจึงสามารถที่จะทำแบบนี้ได้ แต่ถ้าร้านอาหารที่อยู่ย่านชินจุกุหรือว่าอุเอโนะ มีพนักงานคนเดียวอย่างนี้พนักงานคนนั้นอาจต้องเหนื่อยตายก็ได้ ซึ่งเป็นสภาพที่น่าสงสารมาก

สำหรับเรื่องการทำงานแบบนี้เรียกว่า ワンオペ One ope ワン‐オペレーション One operation ก็แปลตามศัพท์ภาษาอังกฤษตรงๆ เลยหมายความว่า "หนึ่งการดำเนินงาน" หรือ "การดำเนินงานรวบ" นำมาใช้ในภาษาญี่ปุ่นโดยเกิดจากผู้ประกอบการรายหนึ่งและก็ถูกนำมาใช้ในความหมายที่ว่าพนักงานคนนั้นๆ เช่น พนักงานในระบบร้านอาหารที่จะต้องสามารถทำงานทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว อาจจะแบ่งเป็นความหมายได้ว่า

1. ความหมายของการดำเนินการหรือกระบวนการคนเดียว "การปฏิบัติการจากงานหลากหลายอย่างในระบบให้เป็นการทำงานแบบดำเนินการรวบได้ด้วยคนๆ เดียว "

2. ส่วนใหญ่ใช้กับงานร้านอาหาร โดยมอบหมายให้พนักงานคนหนึ่งต้องทำงานทั้งหมดในร้านอาหาร อาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่ขาดแคลนกำลังคน เช่น เวลาดึกดื่นเที่ยงคืน หรือร้านในย่านที่ลูกค้าไม่พลุกพล่านมากนัก เป็นต้น


เมื่อพูดเรื่องระบบทำงานร้านอาหาร เพื่อนผมเคยทำงานร้านอาหารไทยแต่เป็นของบริษัทญี่ปุ่น เมื่อ 10 ปีที่แล้วเอง ยังไม่ต้องเหนื่อยยากขนาดนี้ แม้ว่าตอนนั้นเราอาจจะบ่นว่าเศรษฐิจญี่ปุ่นแย่ ทำงานเหนื่อย แต่กลายเป็นว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนยังมีสถานะที่ดีกว่านี้เสียอีก

สมัยนั้นเพื่อนผมทำงานร้านอาหารไทยกลางกรุงโตเกียว ร้านอยู่ใต้สถานีรถไฟย่าน Yurakucho- Ginza ตอนนั้นได้ค่าแรงชั่วโมงล่ะ 1,000 เยน ทำงาน 3 วันต่อสัปดาห์ วันละ 3 ชั่วโมง ( คือเรื่องวันเวลาทำงานนั้นเราเลือกและกำหนดเองได้ บางคนอาจจะทำได้มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ ได้มากกว่าวันละ 3 ชั่วโมงก็ได้บางคนก็เลือกทำยาวๆ วันละ 8 ชั่วโมง 4-5 วันก็ว่ากันไป มีความยืดหยุ่นเรื่องการจัดตารางชีวิตมาก ) คือไม่บังคับ ไม่โหดอะไรมาก มีค่าเดินทางให้ คือตอนนั้นค่าเดินทางแพงมาก ไปกลับจากบ้านประมาณวันละ 2,000 เยน บริษัทก็ยอมจ่ายให้ แต่สมัยนี้คนทำงานอาจต้องรับภาระค่าเดินทางเอง ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท คือจะเปรียบเทียบคร่าวๆ เท่านั้นเอง ว่าปัจจุบันมีความยากลำบากในการทำงานมีมากขึ้น และมีสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องแข่งขันกันมาก

ซึ่งเมื่อเห็นสภาพแบบนี้แล้ว ก็มองย้อนกลับไปถึงสภาพสังคมและเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เกือบจะทุกที่ต้องรัดเข็มขัดอย่างมาก แม้ว่าตามร้านอาหารจะขายอาหารที่ราคาคงเดิมแต่จะไปลดต้นทุนภายใน และบีบคนทำงานในบริษัทตัวเอง ทำให้พนักงานต้องทำงานด้วยความเหนื่อยยากและลำบากมากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าสงสารอย่างมาก และปัจจุบันคนญี่ปุ่นทั่วไปจะมีค่าเฉลี่ยของอายุเพิ่มขึ้น มีคนสูงอายุมากกว่าคนหนุ่มสาว คนที่มีอายุเองก็ตาม

คนหนุ่มสาวเองก็ตามไม่ค่อยมีใครอยากจะมาทำงานเสิร์ฟและงานตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรืองานตามร้านสะดวกซื้อกันเท่าไหร่นัก ปัจจุบันจึงเห็นคนต่างชาติที่อายุไม่มาก มาเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์ประเภทนี้กันเยอะ สังคมญี่ปุ่นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากเดิม ทุกคนดูเคร่งเครียดและต้องยอมรับกับสภาพงานที่ตัวเองเลือกไม่ได้

ที่เมืองไทยคงยังไม่มีสภาพแบบนี้ ซึ่งถือว่าดีมากครับ เล่าสู่กันฟังครับ วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น