xs
xsm
sm
md
lg

ฆาตกรรม(ไม่)ต่อเนื่อง-ใครฆ่าใคร ตอนที่2 แปลกเหลือเชื่อ 1

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

จากบทประพันธ์ของ Ango Sakaguchi (1906-1955)
ปรมาจารย์แห่งความลึกลับของฆาตกรรมปริศนา
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์

สงครามเพิ่งสงบ สังคมนครหลวงสมัยโชวะพยายามดิ้นรนกลับสู่ยุคทองในอดีตที่ไม่ใช่ว่าไกลโพ้น
ไม่เคยมีเสียดีกว่า ต้องสูญเสียไปแล้วอยากได้คืน...

ผมจะเล่าเรื่องครอบครัวของอุตางาวะ คาซุมะให้ฟังกันต่อไป
คุณนายคาจิโกะย่อมช้ำใจเป็นธรรมดาเมื่อรู้ว่านายทามอนมีลูกแอบซ่อนเอาไว้ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องที่เกิดก่อนที่นางจะแต่งงานกับเขานางก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญสักเท่าไร และเมื่อแม่ของคาโยโกะผูกคอตายหลังจากที่นางเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่นานความแค้นเคืองจึงคลายฤทธิ์เดชลง ต่อมาเมื่อคาโยโกะล้มป่วยด้วยโรคร้ายคุณนายก็หันมาเอาใจใส่เรื่องอาหารการกินโดยบอกให้โมโรอินางพยาบาลคอยดูแล และจัดหาเสื้อผ้าให้ใส่เพื่อว่าไปหาใครเขาจะได้ไม่อาย

ดังนั้นเวลาคาโยโกะมีไข้น้อย ๆ หรืออะไรนางพยาบาลจึงต้องดูแลเองไม่พาไปโรงพยาบาล ส่วนเวลาที่นายนางุโมะ อิจิมาสึ หรือนางยูระผู้ภรรยาซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนายทามอนเจ้าของบ้านนั้น เวลาเกิดไม่สบายเป็นอะไรขึ้นมา ไม่ว่ามากน้อยแค่ไหนนางพยาบาลก็ไม่ช่วยเหลือดูแล บอกให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล อ้างว่างานยุ่งเต็มมือ นางุโมะผัวเมียผู้เฒ่าคู่นี้มีนิสัยจุกจิกจู้จี้ เวลาไม่พอใจอะไรจะโมโหโทโสแผดเสียงเอ็ดตะโรเหมือนคนเสียสติ โมโรอินางพยาบาลเป็นผู้หญิงเย็นชาแล้งน้ำใจอยู่แล้วจึงเกลียดสองคนนั้นมาก ไม่ดูดำดูดีเอาเลย ความไม่พอใจหลาย ๆ อย่างของนางจึงประดังประเดไปที่คุณนายคาจิโกะ

ตอนที่คุณนายคาจิโกะใกล้สิ้นใจ มือเท้าที่ตะกุยตะกายไปบนพื้นเสื่อทาทามิด้วยความทุกข์ทรมานเริ่มอ่อนกำลังลง คนที่อยู่รายล้อมได้ยินนางพยายามพูดอะไรสักอย่าง แต่ความที่เสียงแหบแห้งและเบามากจึงฟังแทบไม่ได้ยิน ดูเหมือนกับจะสั่งให้สองผัวเมียนางุโมะออกไปจากที่นั่น แต่ก็ไม่ชัดเจน แม้แต่ทามาโอะลูกสาวที่นั่งอยู่ใกล้คุณนายคาจิโกะที่สุดก็ยังส่ายหน้าบอกไม่รู้ว่าแม่พูดว่าอะไร

คาซุมะบอกผมว่า

“จดหมายขู่ฉบับนี้มันบ้าชัด ๆ พูดถึงเรื่องอะไรที่ผมเองยังจำไม่ได้เลย ผมไม่ใส่ใจกับข้อความหรอกนะ คิดว่าคงเป็นพวกที่หลบภัยมาอยู่ที่หมู่บ้านวัน ๆ ไม่มีอะไรทำ ว่าง ๆ ก็เลยหาเรื่องแกล้งกัน คุณอาจมองว่าผมเอาใจตัวเองเป็นที่สุดเพราะผมจะบอกว่าที่มาขอพึ่งพาคุณวันนี้ ความจริงแล้วไม่ใช่เพื่อขอให้คุณไปด้วย แต่ที่ผมต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือโอเคียวต่างหาก”

คาซุมะหน้าซีดขาว ดูเหมือนจะส่างเมาจากเหล้าสาเกแล้ว

“ผมจะไม่พูดอะไรให้มันเยิ่นเย้อ ว่ากันตรง ๆ เลยละนะ คือผมรักคาโยโกะมานานแล้ว แต่เพราะเราเป็นพี่น้องกันความรักเชิงพิศวาสจึงเปลี่ยนไปเป็นความรักทางจิตวิญญาณที่สูงส่ง เปรียบเสมือนความรักที่บริสุทธิ์อ่อนโยนที่มีต่อพระแม่มารีแห่งพระเยซูคริสต์ แต่ที่เป็นปัญหาก็คือคาโยโกะรักผมยิ่งกว่าที่ผมรักนางเสียอีก ผมเห็นนางอ่านหนังสือเขียนอะไรต่อมิอะไรอยู่เป็นวัน ๆ ทุกวัน คิดว่าน่าจะเข้าใจว่าการรักพี่ชายตัวเองอย่างคนรักนั้นมันเป็นเรื่องที่ผิดทำนองคลองธรรม ผมบอกนะไม่ใช่ไม่บอกว่าพี่ชายกับน้องสาวรักกันไม่ได้ นางยังมาย้อนถามอีกว่าทำไม? คนอื่น ๆ เขารักกันได้แล้วทำไมเราจะรักกันไม่ได้ นางพูดแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมุ่งไปข้างหน้าท่าเดียว ไม่สนใจใยดีกับสายตาของสังคมเลยด้วย มันเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวด้วยอารมณ์ความรู้สึกรุนแรงของสาวพรหมจรรย์ ผมจึงสะเทือนใจมาก คิดว่าให้ตายก็ยอมแล้วคราวนี้ คุณคงไม่เชื่อว่าความรู้สึกของนางสูงส่งมาก ไม่มีอะไรจะสูงส่งไปกว่านี้อีกแล้ว คาโยโกะสลัดโลกของสังคมที่ห่อหุ้มตัวเธอออกอย่างสิ้นเชิง นางรู้อย่างชัดเจนว่าความรักเช่นนั้นสังคมทั่วไปถือว่าเป็นบาป นางรู้ทุกอย่างเหมือนพระเจ้าที่ล่วงรู้และมองออกหมดทุกสิ่งทุกอย่าง มองออกว่านั่นคือชะตากรรมของนางเอง
Ango Sakaguchi (1906-1955)
ผมมึนจนยืนแทบไม่ติดพื้น คุณคิดดูก็แล้วกัน คนเราจะทำยังไงเมื่อถูกพระเจ้าโอบกอดอย่างนุ่มนวลแล้วกระซิบบอกเรื่องที่เป็นบาป ท่ามกลางภาวะวิกฤตินั้นผมหยุดคิด เราจะแตะต้องตัวนางไม่ได้ เป็นตายยังไงก็ไม่ได้ เราจะทำให้พระเจ้าแปดเปื้อนมลทินไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้สึกจวนแจที่จะระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

คาโยโกะจับมือผมบีบแน่น เราจูบกัน จูบนั้นแสนเศร้าและเย็นเยียบ แต่ก็หลอมเราทั้งสองให้ละลายกลายเป็นราวกับสายน้ำเดียวกัน สูงส่งและแสนเศร้า คาโยโกะกระซิบว่าแต่งงานกันเถิด พระเจ้าจะต้องยอมรับความรักของเราแน่นอน แล้วเราตายด้วยกัน แต่ผมตายด้วยไม่ได้ ผมไม่ใช่คนดีไร้เดียงสาขนาดนั้น ผมมันก็แค่ชายโฉดคนหนึ่ง”

ช่วงท้าย ๆ คาซุมะพูดใส่อารมณ์เสียงดังก้องและสั่นสะท้าน แต่ผมเป็นคนที่มีแนวคิดแบบหัวสมัยใหม่จึงไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปด้วยกับเรื่องทำนองนี้ ไม่นานคาซุมะก็สงบลงเหมือนสัตว์ร้ายในสวนสัตว์

“ผมมันชายโฉดตัวจริง”

“ผมเข้าใจ คนเราพอมีอายุราว ๆ คุณ ใคร ๆ ก็เป็นชายโฉดกันทั้งนั้น ครั้งที่มีอะไร ๆ กับคุณนายอายากะนั่นก็ไม่ใช่ย่อย แล้วยังได้ยินมาว่าคุณไปจีบแม่โคโจดาราดวงเด่นบ่อย ๆ ไม่ใช่รึ ส่วนคุณคาโยโกะเธอไม่มีใครอยู่ในสายตานอกจากคุณคนเดียว แต่ฟังคุณเล่าแล้วผมว่าไม่ใช่ความรักอันสูงส่ง หรือความรักต้องห้ามระหว่าพี่ชายน้องสาวอะไรหรอก บรรยากาศทั้งหมดนั่นเป็นภาพลวงตาที่คุณสร้างขึ้นเองจากเสน่ห์และจริตกิริยาของสาวพรหมจรรย์ เท่านั้นเอง

และเมื่อสาวลงไปถึงต้นตอ ก็จะพบว่าจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรมากมายอย่างที่คิด โกรธละซีที่ผมพูดอย่างนี้ หรือจะบอกว่าไม่ใช่ คุณถูกคุณนายอายากะครอบงำจนต้องศิโรราบ ก็เลยอยากทำอะไรขวางโลกขึ้นมาบ้างละซี พี่ชายกับน้องสาว รักกันก็ดีนี่ ทำอะไรขวางโลกนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป ดีออกจะได้ช่วยระบายอารมณ์เสียบ้าง แต่จริง ๆ แล้ว ฟังคุณเล่ามาถึงกลาง ๆ เรื่อง บอกตามตรงผมอดเหงื่อแตกไม่ได้กลัวว่าจะอะไร ๆ กันจริง ๆ น่ะซี”

“ได้ยินคุณพูดอย่างนี้ผมค่อยเบาใจ แม้ว่าสิ่งที่คุณพูดไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง แต่เอาเถิดเรื่องเหตุผลอะไรต่าง ๆ นั่น ผมเชื่อของผมคนเดียวเท่านั้นเป็นพอ สำหรับคุณนั้นถ้าเข้าใจผมอย่างที่พูดมาผมก็พอใจแล้ว ผมอยากขอร้องคุณให้ช่วยคาโยโกะนี่แหละ นางไม่มีเพื่อนเลยสักคน ถ้าจะนับว่าเป็นเพื่อนก็เห็นจะมีแต่โอเคียวเมียคุณคนเดียว คาโยโกะคิดถึงโอเคียวทุกวันเลยรู้ไหม ตอนที่ยังอยู่กันครบ ๆ ถึงจะรู้ตัวว่าไม่สบายเป็นโรคร้ายคาโยโกะก็ยังอุตส่าห์เดินลงไปเที่ยวบ้านโอเคียวบ่อย ๆ ถูกดุก็ยังไป เป็นไข้นอนซมแต่พอลุกขึ้นมาได้ก็ไปอีก นางต้องหนีออกไปนะคุณ ตอนนั้นผมถึงกับเกลียดโอเคียวราวกับว่าเป็นแม่มดที่จ้องคอยจะคาโยโกะด้วยเวทมนต์

ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากขอให้โอเคียวมาอยู่เป็นเพื่อนปลอบใจคาโยโกะ คนที่จะทำเช่นนั้นได้ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากโอเคียว ออกจะพูดยากอยู่สักหน่อยคือ ผมอยากให้โอเคียวช่วยพูดจาหว่านล้อมให้คาโยโกะถอดใจจากผมและหันไปสนใจโลกภายนอก ผมเองพยายามทำเช่นนั้นแล้วแต่ลำพังคนเดียวไม่มีกำลังพอที่จะทำได้ จึงมาขอให้ โอเคียวไปช่วยเป็นกองหนุนให้หน่อย”

หน้าที่นี้หนักหนาไม่น้อย แน่นอน...ผมไม่อาจให้คำตอบได้

ผมกลับบ้านและพูดเรื่องนี้โอเคียว นางปฏิเสธเด็ดขาดบอกว่าปัญหาความรักนั้นต้องปล่อยให้คนทั้งคู่จัดการกันเอง ปล่อยให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ถ้าพูดอะไรพลาดไปแล้วคาโยโกะเกิดฆ่าตัวตายขึ้นมาก็จะพลอยนอนตาไม่หลับไปเปล่า ๆ นอกจากนั้นในส่วนตัวของโอเคียวเองนั้น เป็นธรรมดาที่นางย่อมไม่อยากเสนอหน้าเข้าไปในบ้านพักบนภูเขาหลังนั้นอีก

คำปฏิเสธของโอเคียวหนักแน่นราวกับหินผา แม้แต่คาซุมะยังต้องล้มเลิกความตั้งใจ สามวันหลังจากนั้นเขาก็กลับไปพร้อมกับโมคุเบและโคโรกุกับภรรยาของทั้งสอง

เช้าวันที่ 10 กรกฎาคม ผมได้รับจดหมายจากคาซุมะฉบับหนึ่ง เขียนมาว่า

ผมสั่งให้สำนักงานท่องเที่ยวส่งตั๋วมาถึงคุณในวันที่ 15 กรกฏาคม ขอให้ขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายของวันนั้นมาที่นี่ ตั๋วมี 3 ใบ ใบหนึ่งเป็นของดร.โคเซ ช่วยพยายามหว่านล้อมไม่ว่าจะด้วยวิธีใดให้เขามากับคุณ ขอขอบคุณอย่างยิ่งมาล่วงหน้า

อาชญากรรมสยองขวัญกำลังจะเกิดขึ้น เลือดของคนหลายคนจะเนืองนอง คุณกับดร.โคเซเท่านั้นที่จะช่วยผมได้ และโอเคียว โอเคียว ช่วยผมด้วย ผมกำลังคอยอยู่เบื้องหน้าทะเลเลือดอันมืดทะมึน

บ่ายวันที่ 15 คนของสำนักงานท่องเที่ยวเอาตั๋ว 3 ใบมาให้ พร้อมทั้งอธิบายว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายไปยังเมือง N ออกเวลา 23.35 น. และถึงเมือง N เวลา 7.00 น. วันรุ่งขึ้น และให้ขึ้นรถบัสเที่ยวแรกไปยังจุดหมายบนภูเขา

[ตัวละครในเรื่องและความสัมพันธ์ระหว่างกัน]
อุตางาวะ (ทามอน) บิดาของ คาซุมะ และ ทามาโอะ
คุณนายคาจิโกะ ภรรยาอุตางาวะ (ทามอน) แม่เลี้ยงคาซุมะตายปริศนา
โมโรอิ โคโตมิ นางพยาบาลประจำตัวคุณนายคาจิโกะ
อายากะ ภรรยาคนปัจจุบันของคาซุมะ
ยูระน้องสาวแท้ ๆ ของนายอุตางาวะ (ทามอน) สามีชื่อนางุโมะ อิจิมาสึ
อาคาชิ (โคโจ) ดารา ภรรยา (โคโรกุ) ฮิโตมิ นักเขียนบทละคร ชอบคาซุมะหากคาซุมะรุกเต็มที่ก็พร้อมสลัดโคโรกุ
แขกรับเชิญของทามาโอะ: (วานิ) โมชิซึกิ, ยุมิฮิโกะ (ทังโงะ), (อากิระ) อุสึมิ
ผม คนเล่าเรื่อง ภรรยาชื่อเคียวโกะ เคยเป็นเมียน้อยนายอุตางาวะ (ทามอน) บิดาของ คาซุมะ


กำลังโหลดความคิดเห็น