xs
xsm
sm
md
lg

คนญี่ปุ่นใจดำจริงหรือ ?! ทำไมไม่ช่วยเพื่อนติดถ้ำ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว ปีนี้ก็เดินทางผ่านมาถึงเดือนกันยายนอีกแล้วเร็วมากจริงๆ จากนี้ไปญี่ปุ่นก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูกาลใบไม้ร่วงครับ แต่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมาคือฤดูร้อน ช่วงหน้าร้อนจะมีอากาศที่ร้อนมากโดยเฉพาะปีนี้มีอากาศร้อนมากกว่าทุกปี ทั้งยังเป็นช่วงที่มีพายุเข้าหลายลูกเลย นึกภาพไม่ออกเลยว่าเดือนสิงหาคมปี 2020 ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิค หรือโตเกียวโอลิมปิค 2020 ซึ่งเป็นกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนซะด้วย จัดในช่วงเดือนสิงหาคมที่กำลังร้อนระอุ คิดว่างานนี้คงทั้งร้อน ทั้งพายุ จะเป็นอย่างไรหรอ ต้องรอติดตามครับ

อาทิตย์ที่แล้วเล่าเรื่องคดีปล้นเงินจำนวนมหาศาล เป็นการปล้นเงินสดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยไม่ได้ใช้อาวุธเลยแม้แต่ชิ้นเดียว คนญี่ปุ่นรู้จักกันดีในชื่อว่า 三億円事件 San Oku En Jiken หรือ The 300 million yen robbery แต่ก็ปิดคดีลงโดยหาคนร้ายไม่ได้ เป็นที่กังขามาจนทุกวันนี้ เรื่องแนวสืบสวนสอบสวนเช่นนี้มีประเด็นน่าสงสัยและชวนค้นหามากมาย กระตุ้นให้นักคิดนักเขียนมีจินตนาการบรรเจิด เขียนงานออกมาได้เข้าถึงยิ่งขึ้น

หลายเรื่องในชีวิตจริงเป็นจุดกระตุ้นจินตนาการทำให้เกิดนักเขียนนิยายที่สนุกสมจริงมาก เช่น 金田一少年の事件簿 Kindaichi Shōnen no Jikenbo กับคดีฆาตกรรมปริศนา เป็นมังงะหรือการ์ตูนญี่ปุ่นออกแนวสืบสวนสอบสวน ต่อมาเรื่องเหล่านี้ยังถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชันอีกหลายครั้ง หรือแนวสืบสวนสอบสวนแบบโคนัน ก็เป็นที่สนใจของทุกคน นอกจากนั้นเรื่องแนวสืบสวนเหล่านี้บางครั้งมีแยกตอนเป็น Spin-off หรือภาคแยก แตกไปเป็นอีกเรื่องด้วย โดยการนำเรื่องราวหรือคาแรคเตอร์ของตัวละครตัวที่เด่นๆ ไปแตกหน่อเป็นอีกเรื่อง ทำให้เราได้ซีรี่ส์เรื่องใหม่จากตัวละครในซีรีย์เดิมที่สร้างอยู่แล้ว ทำให้เรื่องลึกและมีมิติมากยิ่งขึ้น คินไดจิโชเน็นเป็นนักสืบ และปีนี้ยังมีคินไดจิ 37 ด้วย ส่วนที่ได้มาจากเค้าโครงเรื่อง 三億円事件 San Oku En Jiken หรือ The 300 million yen robbery นี้ก็ถูกนำไปเขียนในตอนหนึ่งของเรื่องด้วยเป็นการตามล่ากันเองของผู้ที่แบ่งส่วนของเงินที่โจรกรรมมา คนอ่านทุกเพศทุกวัยอ่านสนุกเพลินเลยครับ

คดีแนวสืบสวนสอบสวนยังมีหลายเรื่องที่คงเป็นที่กังขาและหาคนร้ายไม่ได้ นอกจากนั้นเรื่องที่ยังหาสาเหตุหรือผลลัพธ์ไม่ได้นี้ก็เป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากที่ญี่ปุ่นมีเรื่องแนวนี้เกิดขึ้นเยอะมาก เช่นเรื่องที่เคยเล่าไปก่อนหน้านี้ครับ คือ

ดอนฮวนแห่งคิชู(คนรุ่นปู่ที่แต่งงานกับสาววัยรุ่น) เสียชีวิตอย่างปริศนา ตามข่าวบอกว่ามหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นคิชู หรือมหาเศรษฐีของจังหวัด Wakayama ชื่อนาย Nozaki Kōsuke อายุ 77 ปี นอนเสียชีวิตในบ้านของตัวเองอย่างมีเงื่อนงำน่าสงสัยหลายอย่าง และจากการผ่าพิสูจน์ศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจนิติเวชก็ได้ผลตรวจที่น่าสงสัยมากยิ่งขึ้นเพราะตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของผู้ตายในปริมาณสูงมากผิดปกติ ทั้งๆ ที่แหล่งข่าวบอกว่าเขามีสุขภาพที่แข็งแรงดีเยี่ยม และเจ้าตัวก็ไม่ดื่มเหล้าจัด ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเบียร์นิดหน่อยและไม่เคยมีประวัติการเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ว่าแกอาจจะถูกลักลอบวางยาฆาตกรรมก็เป็นได้ คนที่ถูกสงสัยก็คือคนรอบๆ ตัว แต่ถึงตอนนี้คดีก็ยังเงียบงันและยังจับผู้ร้ายไม่ได้ (ดอน ฮวน แห่งคิชูเคยมีสัมพันธ์กับสาวสวยกว่า 4,000 คน ?!)

และอีกหลายๆ คดีก็ยังหาผู้ร้ายไม่ได้ และขึ้นแท่นเป็นคดีสยองขวัญญี่ปุ่นที่ทำให้คนอ่านและคนติดตามเกิดความรู้สึกน่ากลัวและน่าค้นหาด้วย หนึ่งในนั้นคือเรื่องคนติดถ้ำครับ

เมื่อพูดเรื่องคนติดถ้ำ ก็ทำให้นึกถึงน้องๆ ที่ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนที่เชียงรายที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ แต่กรณีน้องๆ นั้นจะเห็นน้ำใจและความช่วยเหลือที่ส่งมาจากทั่วโลก ระยะเวลา 10 วันที่น้องๆ ติดอยู่ในถ้ำหลวงฯ มันนานมากกับสภาพที่มืด หนาว ไม่มีอาหารและเครื่องให้ความอบอุ่น แต่พวกเขาสามารถเอาตัวรอดและช่วยเหลือตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง และเหตุการณ์นี้ก็ได้ทีมผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเข้ามาช่วยเหลือเพื่อช่วยน้อง ๆ ออกมาจากในถ้ำจนสำเร็จ และกลายเป็นภารกิจระดับโลกที่เป็นที่จดจำของทุกคน แต่ต่างจากกรณีที่ผมจะเล่าแบบหน้ามือและหลังมือเลย

ที่ญี่ปุ่นเกิดกับทีมนักศึกษาจากคลับหรือชมรมหนึ่งของมหาวิทยาลัยหนึ่ง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ในวันที่ 5 มกราคม 2008 ที่ถ้ำแห่งหนึ่งที่จังหวัด Okayama

เพื่อนๆ อาจนึกถึงสภาพถ้ำหลวงว่ามีความยากลำบากในการค้นหาแค่ในในสภาวะน้ำท่วมขัง เพิ่มเติมไปอีกคือที่ถ้ำที่เกิดปัญหานี้มีความสูงชันและหน้าผามากมาย ทางเดินเข้าไปจากปากถ้ามีระยะทางราวๆ 1,600 เมตร ไม่ใช่ทางตรงแต่เต็มไปด้วยเนิน ทางแคบ ทางชัน มีสภาพมืดมาก ที่สำคัญหนาวยะเยือก เพราะช่วงที่เกิดเหตุนั้นคือเดือนมกราคมที่อยู่ในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นและถือว่าเป็นช่วงที่หนาวมากของปีด้วย อุณภูมิต่ำสุดเฉลี่ยนอกถ้ำบางวันติดลบ เมื่อเดินเข้าไปจนสุดทางตามระยะ 1,600 เมตรจะเจอทะลสาบที่มีลักษณะเป็นรูปไข่ ( ดูจากภาพประกอบครับ) มีความกว้างประมาณ 20 เมตร ทะเลสาบน้ำลึก 30 เมตร จากปล่องทางถึงผิวน้ำมีระยะความสูงที่ 5 เมตร หรือสูงเกือบๆ จะเท่าตึกชั้นที่ 2 ครับมีคนกระโดดลงไปในทะเลสาบนี้แล้วคิดว่าจะขึ้นมาได้อย่างไรครับ

ที่จริงแล้วคนที่จะเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลถ้ำด้วย และต้องได้รับใบอนุญาตก่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ทีมที่พากันเข้าไปก็เข้าไปโดยพละการไม่ได้มีการขออนุญาตก่อนแต่อย่างใด มีลงบันทึกการแจ้งความไว้เมื่อเวลาประมาณ 18 นาฬิกาของวันที่เกิดเหตุว่ามีคนหายในถ้ำ เพราะได้มีกลุ่มนักศึกษาประมาณ 13 คน เดินทางไปถ้ำแห่งนี้ นักศึกษาเหล่านั้นเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐบาลปี 3 อายุเฉลี่ยประมาณ 21 ปี ระบุว่ามีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มหายตัวไปขณะกำลังว่ายน้ำอยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 30 นายรวมกับกองกำลังอื่นๆ ทั้งดับเพลิงและทีมกู้ภัยต่างๆ ช่วยกันระดมกำลังค้นหา แต่ก็หาไม่พบ

จากคำสัมภาษณ์ของนักกู้ภัยระดับโลกคนนึง บอกว่าเขาเคยกู้ภัยมามากมาย แต่ที่ถ้ำนี้เป็นที่ที่ทำการช่วยเหลือยากมากที่สุด จนเรียกได้ว่า หนึ่งในสามของความยากเลย ครั้งนี้เขาใช้เวลาค้นหาถึง 6 วัน แต่ก็หาไม่เจอ เลยถอนกำลังออกมา สำหรับผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆ ก็บอกว่าในถ้ำมืดมาก ไม่มีแสงไฟ ช่วงนั้นช่วงหน้าหนาว เดือนมกราคมหนาวมาก ทางเดินในถ้ำก็ยากลำบาก บางจุดต้องหย่อนตัวลงไปจากเนินกว่า 20 เมตร น่าจะหาไม่เจอ ก็ถอนตัวออกมา

สืบความได้ว่า นักศึกษากลุ่มนี้มีการรวมตัวกันที่เรียกว่าทีมชมรมผู้มีเจตนารมณ์ร่วมกัน ครั้งนี้มีทั้งนักศึกษาและผู้ใหญ่ จำนวนรวม 13 คน เดินเข้าไปเที่ยวในถ้ำ แต่มี 5 คนในกลุ่มที่จะเดินลึกเข้าไปอีกจนถึงทะเลสาบ เข้าไปตั้งแต่เช้า ว่ายน้ำแล้วออกมาประมาณ 14 นาฬิกา แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ช่วยกันหาแล้วแต่คิดว่าเริ่มหมดกำลังแล้วจึงออกมา ค่อยหาใหม่วันรุ่งขึ้น เพราะอาจจะอันตรายไปด้วย

แต่จากบทสัมภาษณ์ของเพื่อนๆ ของผู้สูญหายกลับมีจุดที่น่าสงสัยเยอะแยะไปหมด อาทิเช่น

* ปาร์ตี้ที่กลุ่มคนทั้ง 13 คนเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลถ้ำนี้ พวกเขาเข้าไปโดยมีจุดประสงค์ใดกันแน่?
* การให้ปากคำของทั้ง 12 คนที่เข้าไปก็พูดไม่ตรงกัน กลับไปกลับมา ส่วน 4 คนที่เข้าไปพร้อมกับผู้สูญหายก็บอกว่าตัวเองก็ไปว่ายน้ำ แต่ดูจากรูปการแล้วเหมือนไม่น่าจะมีใครกล้าว่ายหรอกนะ สภาพหนาวเย็น และมืด และน้ำลึก ปากทางลงน้ำสูงกว่า 5 เมตร ลงไปแล้วจะขึ้นอย่างไร
* คาดการณ์ว่าเพื่อนที่สูญหายจะจมน้ำ แต่ตอนที่ถามว่าเพื่อนขอความช่วยเหลือไหม ก็ไม่มีใครตอบได้ กลับตอบปัดๆ ตอบว่าไม่เห็น ไม่ทราบ
* ตอนที่เจ้าหน้าที่มาถึง กลับไม่มีนักศึกษาอยู่ที่ถ้ำสักคน แบบนี้มันเพื่อนหายจริงมั้ยเนี่ย ห่วงเพื่อนจริงหรือเปล่า
* เขาบอกว่าเตรียมอุปกรณ์เดินถ้ำมาพร้อมไม่คิดว่าจะมีอันตราย แต่ไม่ได้ใช้เชือกช่วยเพื่อนเลยหรือ
* ผู้จัดการชมรมเป็นผู้หญิง มักจะหลีกเลี่ยงจากให้สัมภาษณ์ และด้วยความเป็นผู้หญิงก็ไม่มีใครว่าได้ และลบชื่อตัวเองออกจากโฮมเพจเวปไซต์ชมรม
* ชมรมนี้มีผู้หญิงจำนวนมากเท่าๆ ผู้ชาย มีความเห็นว่าเกิดปัญหาชู้สาวภายในและเป็นการฆ่าตกรรมอำพรางหรือเปล่า
* ปกติถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มักจะมีการพูดคุยกันในข้อความหรืออินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะ SNS ชื่อ mixi คล้ายๆ โปรไฟล์ส่วนตัว แต่คดีนี้กลับเงียบมาก อาจจะเป็นเพราะความมีอำนาจของคนในชมรมก็ได้
* เพื่อนคนหนึ่งของผู้เสียชีวิต ไปวิ่งเต้นให้เวปไซต์มหาวิทยาลัยลบข้อมูลที่เกี่ยวกับคดีนี้ออก
* หลังจากนั้น Profile ของผู้เสียชีวิต ก็ถูกล็อกอินเข้าไปลบโปรไฟล์ทั้งหมดและยังมีความน่าสงสัยอีกหลายประเด็น

และจากเว็บไซต์รวมกระทู้ก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ

* มีคนบอกว่าก่อนโปรไฟล์ของผู้เสียชีวิต ใน mixi จะถูกลบออกไป มีการโพสต์ลงไปว่าทีมเข้ามาดื่มเหล้า ปาร์ตี้ และกินเค้กกัน
* มีคนบอกว่านี่คือการรับน้องของคนเข้ามาชมรมนี้ น่าจะมีคนเคยโดน
* มีคนบอกว่าเกิดประเด็นชู้สาวในกลุ่มเลยถูกปิดปาก
*ถ้ามองในมุมเกี่ยวกับเกมส์ RPG จะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอดถ้าเหล่าซาตานยังไม่ถูกกำจัดออกไป ที่โลกยังไม่สงบนิ่ง ส่วนหนึ่งก็เกิดปัญหาขึ้นมาจากความวุ่นวายจากการพบเจอและปาร์ตี้กันระหว่างชายและหญิงนั่นแล เพราะมันไม่ได้ไกลจากคำสาปจากซาตานเลย..


ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุป และเป็นที่กังขาในสังคมอยู่ แต่อย่างหนึ่งที่รู้กันคือ ถ้าเป็นการฆาตกรรมจริงก็นับว่าโหดมาก ช่างไม่มีความเห็นใจเพื่อนเลย ต่างจากกรณีถ้าหลวงอย่างมาก บางทีคนเรารู้หน้าก็ไม่รู้ใจนะครับ วันนี้สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น