เหตุน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ในญี่ปุ่น ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 88 ราย รัฐบาลญี่ปุ่นต้องสั่งระดมเจ้าหน้าที่ 54,000 คนร่วมปฏิบัติการกู้ภัย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า ฝนที่ตกหนักในภาคตะวันตกของญี่ปุ่นจะเริ่มลดลง แต่หลายพื้นที่ยังมีความเสี่ยงดินถล่มและน้ำท่วม โดยได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยฉุกเฉินใน 9 จังหวัด แต่ยังแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด
ฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบสิบปี ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันตกของญี่ปุ่นหลายพื้นที่น้ำท่วมสูงหลายเมตรและยังมีดินถล่ม แม้แต่สะพานเหล็กและเขื่อนก็ถูกกระแสน้ำพัดทำลายเสียหาย
ทางการเผยว่า ณ เช้าวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พบว่า88 คนเสียชีวิต ขณะที่ 4 คนมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติและอย่างน้อย 58 คนหายสาบสูญ
จังหวัดฮิโรชิมาได้รับความเสียหายหนักที่สุด โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 38 คน ส่วนที่จังหวัดเอฮิเมะนั้นมีผู้เสียชีวิต 21 คน
นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตในจังหวัดโอกายามะ เฮียวโงะ เกียวโต ชิงะ ฟูกูโอกะ โคจิ กิฟุ และยามางูจิ ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสอยู่ในจังหวัดฮิโรชิมา, คาโงชิมะ, เกียวโตและเฮียวโงะ
พื้นที่จังหวัดฮิโรชิมา, เอฮิเมะ, กิฟุ โอคายามะมีฝนตกหนักมากกว่าปกติ 3 เท่าตัว จนต้องอพยพผู้คนมากกว่า 8.63 ล้านคนใน 23 จังหวัดของญี่ปุ่น
รัฐบาลระดมสรรพกำลังกู้ภัย
รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดตั้งคณะทำงานรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ สั่งการให้ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือการค้นหาและกู้ภัย เนื่องจากยังมีน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า นี่เป็นการแข่งกับเวลาเพราะผู้คนจำนวนมากยังคงสูญหาย ติดค้าง หรือรอการช่วยเหลือ เขากล่าวว่าเจ้าหน้าที่ 54,000 คนที่ร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยต้องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
หน่วยกู้ภัยประเมินว่ายังมีผู้ติดที่ค้างอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมาก เพราะถนนถูกตัดขาดจากน้ำท่วม ที่จังหวัดโอคายามะ เขื่อน 3 แห่งแตกทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านกว่า 1,000 คนหนีน้ำท่วมขึ้นไปรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน และอีกจำนวนหนึ่งหนีไปอยู่ตามสถานีรถไฟซึ่งเป็นที่สูง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือ
รัฐบาลได้ระดมรถสูบน้ำเข้าพื้นที่ แต่คาดว่าต้องใช้เวลาราวสองสัปดาห์จึงจะสูบน้ำได้เสร็จสิ้น
ธุรกิจของญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยครั้งนี้ บริษัทมาสด้า มอเตอร์ และไดฮัตสุ มอเตอร์ ต้องหยุดการผลิตในโรงงานหลายแห่งที่จังหวัดเกียวโต, ฮิโรชิมะ และยามากูจิ เนื่องจากความปลอดภัยของพนักงาน และระบบการขนส่งที่ถูกตัดขาด และความไม่แน่นอนในการลำเลียงอะไหล่ต่าง ๆ.