สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วคุยกับกัปตัน Jiro-Saburo เรื่อง 山口メンバー Yamaguchi member หนึ่งในสมาชิกวง “Tokio” ที่มีข่าวว่าเมาแล้วจูบเด็กมัธยมปลาย และยังมีเรื่องเกี่ยวกับข่าวคาวต่างๆ ของบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่จะเล่าอีกเช่น เรื่องรัฐมนตรีขอจับอกสาว เป็นต้น จึงคิดว่าเชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดีกว่าครับ ขอเชิญพบกับกัปตัน Jiro-Saburo !!! (นามสมมติ) มาแล้ว !!! ผู้มีประสบการณ์ความรัก 100 ครั้ง ชนะ 97 ครับ แพ้ 2 เสมอ 1(´ω｀; ) และเคยมาช่วยผมตอบคำถามหลายครั้งแล้ว
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆Дﾟ) ノกัปตัน:<ช่าย...ผมคือกัปตันเรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรัก วันนี้มีคำถามอะไรมาถามล่ะ
กัปตัน : (สูบบุหรี่ ... 彡( ◆Дﾟ)y─┛～) วันนี้ให้เล่าอะไรดี
Mr. Leon : สวัสดีครับผม ต่อจากครั้งที่แล้วอยากรู้เรื่องรัฐมนตรีขอจับอกสาวได้ไหมนะครับ
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆Дﾟ) づกัปตัน: < อ่อ ที่จริงข่าวเด่นๆ ในประเด็นเกี่ยวกับแวดวงคนดังที่ของครึ่งปีนี้ เล่าไปแล้วเรื่องนึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือนักร้องวง Tokio อ่ะนะ ส่วนข่าวที่ดังรองลงมาคือ
ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคลังญี่ปุ่นประกาศลาออก เขาไม่ใช่รัฐมนตรีนะ ซึ่งหลังจากที่มีนิตยสารรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งเปิดเผยว่าเขาคุกคามทางเพศผู้สื่อข่าวหญิงคนหนึ่ง เดี๋ยวจะเกริ่นเรื่องข่าวให้ฟังก่อนจะเล่าในประเด็นที่น่าสนใจ
เขาชื่อนาย Junichi Fukuda 福田淳一 เป็นปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาถูกแฉว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้สื่อข่าวสาวคนหนึ่ง และอาจจะมีอีกหลายคน
นิตยสารดังกล่าวนำคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของนาย Fukuda ที่มีเสียงพูดกับฝ่ายตรงข้ามที่แหล่งข่าวบอกว่าคือนักข่าวสาว เขาพูดว่าขอมัดข้อมือสาวไว้และจับหน้าอกหน่อยได้ไหม !! นอกจากนั้นยังมีคำพูดทะลึ่งๆ อีกหลายคำ เช่น ถามสาวว่าสามีมีชู้หรือเปล่า เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อคนพูดว่าเป็นเสียงของใครกันแน่ แต่บันทึกเสียงนั้นก็ถือว่าเป็นหลักฐานที่มีอยู่จริง จึงทำให้คนทั่วไปเกิดความสนใจติดตามข่าวกันอย่างมาก
แต่นาย Fukuda ยืนยันว่าข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง และบอกว่าที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อปกป้องชื่อเสียงองค์กร เพราะข่าวของเขาทำให้กระทรวงประสบกับสถานการณ์ร้ายแรง และทำให้เขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะปลัดกระทรวงต่อไปได้เต็มที่
ซึ่งทางด้านรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นก็ได้เซ็นต์อนุมัติการลาออกของนาย Fukuda แล้ว และกรณีนี้นับเป็นเรื่องอื้อฉาวล่าสุดที่สั่นคลอนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะด้วย อาจจะยิ่งฉุดให้คะแนนนิยมลดลงได้อีกอย่างต่อเนื่อง
____ノ忖ヽ__
m9 ( ◆Д´#)シ กัปตัน: Hey,boy! มีเรื่องสำคัญจะบอก
Mr. Leon : อะไรครับ Σ(´•ω•｀ )_
__ ノ度ヽ_
σ ( ◆Дﾟ) σกัปตัน: ที่จริงวันนี้ฉันไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องที่มุ่งประเด็นไปที่จับอก ฉันอยากเขียนเรื่องเศรษฐกิจสักหน่อย มันอาจจะต่างจากสไตล์เดิมของฉันสักหน่อยอ่ะนะ โอเคไหม ที่จริงทุกครั้งที่มีปัญหาเกี่ยวกับชู้สาวถ้าพูดถึงมุมมองในสังคมญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายความคิดมาก ด้วยความที่ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นสังคมพุทธสักทีเดียว จึงมีหลายคนมองว่า ใครมีอาชีพอะไรก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีอย่าให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว คนที่บกพร่องในหน้าที่ต่างหากที่น่าถูกตำหนิมากกว่าจะมาตำหนิเรื่องคนมีชู้หรือคุกคามทางเพศซะอีก พูดให้เห็นภาพคือ เช่นใครมีอาชีพนักร้อง ถ้าร้องเพลงห่วย ค่อยน่าตำหนิ , อาชีพนักแสดง แต่เล่นหนังเล่นละครแย่ค่อยน่าตำหนิ แต่ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นกับปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นหรือถือว่าเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคลังญี่ปุ่น ก็เลยมีผลกับชื่อเสียงหน้าที่การงานอยู่มาก
แกก็รู้ใช่ไหมว่าการที่เป็นถึงปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นนี่ การเดินทางไต่เต้าขึ้นมาจนถึงระดับนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เทียบกับบริษัทญี่ปุ่นทั่วไปให้เห็นภาพคือ การที่คนทำงานคนหนึ่งจะค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ของตัวเองและเลื่อนขั้นจนเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมานี่ค่อนข้างต้องใช้เวลามาก เกือบทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ สายการคลังนี่ก็เช่นกัน ก่อนอื่นคนที่สอบผ่านเข้ามาที่สายงานนี้ได้นี่ปีหนึ่งๆ ไม่ถึง 10 คน จากพลเมืองคู่แข่งในรุ่นนั้นๆ ปีละล้านถึงสองล้านคน ทำงานไปยังเจอความกดดัน ความเครียดต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย มีคนที่อยู่ไม่ไหว มีคนที่ถูกย้ายไปสายงานอื่นอีกก็เยอะ ทำให้คนที่เติบโตมาจนขึ้นเป็นระดับผู้บริหารนี่เจอเรื่องที่ต้องฝ่าฝันมาเยอะมาก ถือว่าเป็น Top ของ Salaryman ก็ได้ พอข่าวออกมาทำให้คนติดตามข่าวรู้สึกว่า ท่านปลัดพูดออกมาแบบนี้ ก็เท่ากับจบชีวิตตัวเองชัดๆ เลย ถ้าเป็นคำพูดของนักแสดงเอวีก็ว่าไปอย่างคงไม่มีใครมาเล่นให้เป็นประเด็นแบบนี้
เรื่องงบประมาณประจำปีและเรื่องเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากกว่าอดีต คือสมัยก่อนที่ยังมีการเผื่องบประมาณต่างๆ หลวมๆ ไม่ถึงกับเข้มงวดเหมือนทุกวันนี้ สำหรับสิ่งที่คนในอาชีพนี้ควรปฏิบัติตามคืออะไร ต้องทำตามอย่างเคร่งคัดและรักษาภาพพจน์ด้วยไหม ในสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันนี้คนญี่ปุ่นต้องถูกกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมาก หลายคนรู้สึกว่าต้องถูกบีบบังคับให้อยู่ในสภาพที่เลือกไม่ได้
ส่วนประเด็นที่ฉันอยากเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้คือ เมื่อสัก 20 ปีก่อนก็เคยมีกรณีเช่นนี้กับกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ครั้งนั้นโดนเด้งไปเป็นร้อยคน เปลี่ยนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว แถมเป็นที่อื้อฉาวจนกระทบครอบครัวและคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่โดนเด้ง เช่นภรรยา ลูกๆ ก็ล้วนได้รับผลกระทบตามไปด้วย มีคนบอกว่าบางคนไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านยังโดนมองด้วยสายตาดูถูก สำหรับกระทรวงเองก็ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ มาใช้ชื่อที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เรื่องของเรื่องก็แค่มีข้าราชการของกระทรวงนี้ไปรับบริการ entertains จากร้านบริการอาบอบนวด ノーパンしゃぶしゃぶ No pan shabu shabu (ชาบูชาบูโนกางเกงในประมาณนั้น !) แล้วมีรายชื่อหลุดออกมาเอง รายชื่อก็ยาวเป็นหางว่าว เนื้อหาความผิดแค่นี้ที่จริงเหมือนเป็นเรื่องขำๆ ในหมู่คนเม้าท์มอยมากกว่า แต่มีผลกระทบมากเกินคาดการณ์
ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นข่าวเพราะว่ามีแฟ็กซ์ลึกลับ เปิดเผยรายชื่อคนในกระทรวงนี้ที่เคยไปใช้บริการที่สถานที่ดังกล่าวส่งไปที่สื่อ ( มีแหล่งข่าวแจ้งว่าเบอร์ต้นทางมาจากเบอร์ภายในของสถานทูตประเทศมหาอำนาจประเทศยักษ์ใหญ่ ) ทันทีที่สื่อมีรายชื่อก็เล่นข่าวเลยทีเดียว ทำให้คนในกระทรวงนั้นโดนเด้งและโยกย้ายออกจากงานไปหลายร้อยคน นั่นเองที่ทำให้คนที่เก่งมากๆ หลายคนโดนถอด และเปลี่ยนเป็นทีมใหม่ๆ
Mr. Leon : อ่อผมพอจำได้ครับ ผมยังคิดเล่นๆ อยู่เลยว่าถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ถอดคนออก ณ วันนั้น เศรษฐกิจญี่ปุ่นและสังคมญี่ปุ่นจะต้องเป็นอีกแบบแน่ๆ อาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะ แต่ประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ผมเคยได้ยินมาว่าครั้งนั้นมันคือหนึ่งในแผนการล้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งใช่ไหมครับ ตอนนั้นคงประมาณปี 2540 เป็นช่วงที่ไทยเองก็ประสบปัญหาฟองสบู่แตกใช่ไหม และที่ญี่ปุ่นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผลกับเศรษฐกิจมากมายเช่นกัน เศรษฐกิจหลายส่วนชะลอตัว และยังทำให้ธนาคารเล็กๆ บางธนาคารต้องปิดตัวเองไปก็มี
___ ノกヽ＿
彡 ( ◆д-)ミกัปตัน: ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น สังคมญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากเรื่องพวกนี้มากเลย ตอนนั้นมีใบปลิว แมกกาซีนมากมายที่เขียนด่า 官僚 bureaucrat, technocrat แบบโง่ๆ คือด่าแบบไม่มีเหตุผล หารู้ไม่ว่าที่จริงพวกที่โดนเด้งออกไปจากเรื่องแค่มีรายชื่อไปใช้บริการสถานบันเทิงเนี่ยคือพวกหัวกระทิของหัวกระทิเลย มีคนบอกว่าการใช้คำด่าแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้มีแรงจูงใจมาจากความอิจฉาริษยาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบกับสังคมและเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างมาก
สมัยนั้น ไม่ว่าสื่ออะไรๆ ก็เขียนล้อเลียนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้ไปหมด ขนาดการ์ตูนชื่อ コボちゃん Kobo chan การ์ตูนที่เขียนประจำอยู่ในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นฉบับหนึ่ง ยังมีตอนหนึ่งที่ล้อเลียนเลย การ์ตูนเขียนว่า “ แม่ของ コボちゃん Kobo chan ไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไรทานดี ขณะนั้น コボちゃん Kobo chan กำลังอาบน้ำในอ่างโอฟุโระ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็วิ่งล้อนจ้อนออกมา จนแม่เอ็ดเข้าให้ แต่แล้วแม่ก็มีไอเดียขึ้นมาทันทีว่า แม่ทำชาบูชาบู !!”
อย่างที่มีหลายกระแสเม้าท์มอยกันว่าคนที่สร้างเรื่องนี้มาขึ้นมาเก่งมากเพราะคิดจะเลื่อยขาเก้าอี้เศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเอาเรื่องสุรานารีมาล่อและปั่นให้คนในสังคมเอาความอิจฉาริษยาของมนุษย์มาห้ำหั่นกันจนญี่ปุ่นเซได้อย่างมากจนถึงปัจจุบัน
สำหรับกรณีปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับนาย Fukuda นี้ เค้าก็เรียกกันว่า Fukuda Member เหมือนกันนะ เนื้อหาก็อย่างที่เล่าไปด้านบน เขาลาออกก่อนที่จะถึงเวลาเกษียณแค่ 2 ปีทำให้ชวดเงินสะสมก้อนใหญ่ที่ควรจะได้เมื่อเกษียณตามอายุการทำงาน ปัจจุบันเขาได้เงินสะสมจากการทำงานแค่ 50 ล้านเยน เหมือนเยอะแต่น้อยมากถ้าเทียบกับเงินสะสมที่ควรจะได้รับเมื่ออยู่จนครบวาระ คนญี่ปุ่นจึงมองว่าระบบ การทำงานเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง และระบบเงินสำรองเหล่านี้บางทีเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมในสังคม ไว้มีโอกาสจะเล่าเรื่อง 天下り Amakudari ให้ฟัง
Mr. Leon : จากกรณีนาย Fukuda มีนักเขียนที่ผมชอบเขียนบอกว่า นาย Fukuda เป็นโรคจิต แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เขาอาจจะแค่ทะลึ่งอย่างเดียว แต่เสียดายความเก่งเขาอีกแล้ว พวกเก่งๆ โดนเลื่อยขาโต๊ะกันจัง แต่ช่วยไม่ได้ตรงที่มันมีหลักฐานออกมานี่แหละน้า
วันนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับข่าวคาวของคนที่มีชื่อเสียง พ่วงเรื่องเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไปนิดหน่อยหวังว่าเพื่อนๆ คงไม่เบื่อนะครับ ต้องขอบคุณกัปตันด้วยครับที่มาเล่าให้ฟัง ไว้คราวหน้าจะเชิญมาอีก
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆дﾟ) y─┛〜" <: โอเชนะ เข้าใจนะ
วันนี้สวัสดีครับ 彡 ( ◆Дﾟ) 人(｀ω´ , ) ﾉ"
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆Дﾟ) ノกัปตัน:<ช่าย...ผมคือกัปตันเรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรัก วันนี้มีคำถามอะไรมาถามล่ะ
กัปตัน : (สูบบุหรี่ ... 彡( ◆Дﾟ)y─┛～) วันนี้ให้เล่าอะไรดี
Mr. Leon : สวัสดีครับผม ต่อจากครั้งที่แล้วอยากรู้เรื่องรัฐมนตรีขอจับอกสาวได้ไหมนะครับ
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆Дﾟ) づกัปตัน: < อ่อ ที่จริงข่าวเด่นๆ ในประเด็นเกี่ยวกับแวดวงคนดังที่ของครึ่งปีนี้ เล่าไปแล้วเรื่องนึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือนักร้องวง Tokio อ่ะนะ ส่วนข่าวที่ดังรองลงมาคือ
ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคลังญี่ปุ่นประกาศลาออก เขาไม่ใช่รัฐมนตรีนะ ซึ่งหลังจากที่มีนิตยสารรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งเปิดเผยว่าเขาคุกคามทางเพศผู้สื่อข่าวหญิงคนหนึ่ง เดี๋ยวจะเกริ่นเรื่องข่าวให้ฟังก่อนจะเล่าในประเด็นที่น่าสนใจ
เขาชื่อนาย Junichi Fukuda 福田淳一 เป็นปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาถูกแฉว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้สื่อข่าวสาวคนหนึ่ง และอาจจะมีอีกหลายคน
นิตยสารดังกล่าวนำคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของนาย Fukuda ที่มีเสียงพูดกับฝ่ายตรงข้ามที่แหล่งข่าวบอกว่าคือนักข่าวสาว เขาพูดว่าขอมัดข้อมือสาวไว้และจับหน้าอกหน่อยได้ไหม !! นอกจากนั้นยังมีคำพูดทะลึ่งๆ อีกหลายคำ เช่น ถามสาวว่าสามีมีชู้หรือเปล่า เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อคนพูดว่าเป็นเสียงของใครกันแน่ แต่บันทึกเสียงนั้นก็ถือว่าเป็นหลักฐานที่มีอยู่จริง จึงทำให้คนทั่วไปเกิดความสนใจติดตามข่าวกันอย่างมาก
แต่นาย Fukuda ยืนยันว่าข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง และบอกว่าที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อปกป้องชื่อเสียงองค์กร เพราะข่าวของเขาทำให้กระทรวงประสบกับสถานการณ์ร้ายแรง และทำให้เขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะปลัดกระทรวงต่อไปได้เต็มที่
ซึ่งทางด้านรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นก็ได้เซ็นต์อนุมัติการลาออกของนาย Fukuda แล้ว และกรณีนี้นับเป็นเรื่องอื้อฉาวล่าสุดที่สั่นคลอนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะด้วย อาจจะยิ่งฉุดให้คะแนนนิยมลดลงได้อีกอย่างต่อเนื่อง
____ノ忖ヽ__
m9 ( ◆Д´#)シ กัปตัน: Hey,boy! มีเรื่องสำคัญจะบอก
Mr. Leon : อะไรครับ Σ(´•ω•｀ )_
__ ノ度ヽ_
σ ( ◆Дﾟ) σกัปตัน: ที่จริงวันนี้ฉันไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องที่มุ่งประเด็นไปที่จับอก ฉันอยากเขียนเรื่องเศรษฐกิจสักหน่อย มันอาจจะต่างจากสไตล์เดิมของฉันสักหน่อยอ่ะนะ โอเคไหม ที่จริงทุกครั้งที่มีปัญหาเกี่ยวกับชู้สาวถ้าพูดถึงมุมมองในสังคมญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายความคิดมาก ด้วยความที่ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นสังคมพุทธสักทีเดียว จึงมีหลายคนมองว่า ใครมีอาชีพอะไรก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีอย่าให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว คนที่บกพร่องในหน้าที่ต่างหากที่น่าถูกตำหนิมากกว่าจะมาตำหนิเรื่องคนมีชู้หรือคุกคามทางเพศซะอีก พูดให้เห็นภาพคือ เช่นใครมีอาชีพนักร้อง ถ้าร้องเพลงห่วย ค่อยน่าตำหนิ , อาชีพนักแสดง แต่เล่นหนังเล่นละครแย่ค่อยน่าตำหนิ แต่ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นกับปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นหรือถือว่าเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคลังญี่ปุ่น ก็เลยมีผลกับชื่อเสียงหน้าที่การงานอยู่มาก
แกก็รู้ใช่ไหมว่าการที่เป็นถึงปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นนี่ การเดินทางไต่เต้าขึ้นมาจนถึงระดับนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เทียบกับบริษัทญี่ปุ่นทั่วไปให้เห็นภาพคือ การที่คนทำงานคนหนึ่งจะค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ของตัวเองและเลื่อนขั้นจนเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมานี่ค่อนข้างต้องใช้เวลามาก เกือบทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ สายการคลังนี่ก็เช่นกัน ก่อนอื่นคนที่สอบผ่านเข้ามาที่สายงานนี้ได้นี่ปีหนึ่งๆ ไม่ถึง 10 คน จากพลเมืองคู่แข่งในรุ่นนั้นๆ ปีละล้านถึงสองล้านคน ทำงานไปยังเจอความกดดัน ความเครียดต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย มีคนที่อยู่ไม่ไหว มีคนที่ถูกย้ายไปสายงานอื่นอีกก็เยอะ ทำให้คนที่เติบโตมาจนขึ้นเป็นระดับผู้บริหารนี่เจอเรื่องที่ต้องฝ่าฝันมาเยอะมาก ถือว่าเป็น Top ของ Salaryman ก็ได้ พอข่าวออกมาทำให้คนติดตามข่าวรู้สึกว่า ท่านปลัดพูดออกมาแบบนี้ ก็เท่ากับจบชีวิตตัวเองชัดๆ เลย ถ้าเป็นคำพูดของนักแสดงเอวีก็ว่าไปอย่างคงไม่มีใครมาเล่นให้เป็นประเด็นแบบนี้
เรื่องงบประมาณประจำปีและเรื่องเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากกว่าอดีต คือสมัยก่อนที่ยังมีการเผื่องบประมาณต่างๆ หลวมๆ ไม่ถึงกับเข้มงวดเหมือนทุกวันนี้ สำหรับสิ่งที่คนในอาชีพนี้ควรปฏิบัติตามคืออะไร ต้องทำตามอย่างเคร่งคัดและรักษาภาพพจน์ด้วยไหม ในสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันนี้คนญี่ปุ่นต้องถูกกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมาก หลายคนรู้สึกว่าต้องถูกบีบบังคับให้อยู่ในสภาพที่เลือกไม่ได้
ส่วนประเด็นที่ฉันอยากเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้คือ เมื่อสัก 20 ปีก่อนก็เคยมีกรณีเช่นนี้กับกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ครั้งนั้นโดนเด้งไปเป็นร้อยคน เปลี่ยนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว แถมเป็นที่อื้อฉาวจนกระทบครอบครัวและคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่โดนเด้ง เช่นภรรยา ลูกๆ ก็ล้วนได้รับผลกระทบตามไปด้วย มีคนบอกว่าบางคนไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านยังโดนมองด้วยสายตาดูถูก สำหรับกระทรวงเองก็ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ มาใช้ชื่อที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เรื่องของเรื่องก็แค่มีข้าราชการของกระทรวงนี้ไปรับบริการ entertains จากร้านบริการอาบอบนวด ノーパンしゃぶしゃぶ No pan shabu shabu (ชาบูชาบูโนกางเกงในประมาณนั้น !) แล้วมีรายชื่อหลุดออกมาเอง รายชื่อก็ยาวเป็นหางว่าว เนื้อหาความผิดแค่นี้ที่จริงเหมือนเป็นเรื่องขำๆ ในหมู่คนเม้าท์มอยมากกว่า แต่มีผลกระทบมากเกินคาดการณ์
ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นข่าวเพราะว่ามีแฟ็กซ์ลึกลับ เปิดเผยรายชื่อคนในกระทรวงนี้ที่เคยไปใช้บริการที่สถานที่ดังกล่าวส่งไปที่สื่อ ( มีแหล่งข่าวแจ้งว่าเบอร์ต้นทางมาจากเบอร์ภายในของสถานทูตประเทศมหาอำนาจประเทศยักษ์ใหญ่ ) ทันทีที่สื่อมีรายชื่อก็เล่นข่าวเลยทีเดียว ทำให้คนในกระทรวงนั้นโดนเด้งและโยกย้ายออกจากงานไปหลายร้อยคน นั่นเองที่ทำให้คนที่เก่งมากๆ หลายคนโดนถอด และเปลี่ยนเป็นทีมใหม่ๆ
Mr. Leon : อ่อผมพอจำได้ครับ ผมยังคิดเล่นๆ อยู่เลยว่าถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ถอดคนออก ณ วันนั้น เศรษฐกิจญี่ปุ่นและสังคมญี่ปุ่นจะต้องเป็นอีกแบบแน่ๆ อาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะ แต่ประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ผมเคยได้ยินมาว่าครั้งนั้นมันคือหนึ่งในแผนการล้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งใช่ไหมครับ ตอนนั้นคงประมาณปี 2540 เป็นช่วงที่ไทยเองก็ประสบปัญหาฟองสบู่แตกใช่ไหม และที่ญี่ปุ่นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผลกับเศรษฐกิจมากมายเช่นกัน เศรษฐกิจหลายส่วนชะลอตัว และยังทำให้ธนาคารเล็กๆ บางธนาคารต้องปิดตัวเองไปก็มี
___ ノกヽ＿
彡 ( ◆д-)ミกัปตัน: ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น สังคมญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากเรื่องพวกนี้มากเลย ตอนนั้นมีใบปลิว แมกกาซีนมากมายที่เขียนด่า 官僚 bureaucrat, technocrat แบบโง่ๆ คือด่าแบบไม่มีเหตุผล หารู้ไม่ว่าที่จริงพวกที่โดนเด้งออกไปจากเรื่องแค่มีรายชื่อไปใช้บริการสถานบันเทิงเนี่ยคือพวกหัวกระทิของหัวกระทิเลย มีคนบอกว่าการใช้คำด่าแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้มีแรงจูงใจมาจากความอิจฉาริษยาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบกับสังคมและเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างมาก
สมัยนั้น ไม่ว่าสื่ออะไรๆ ก็เขียนล้อเลียนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้ไปหมด ขนาดการ์ตูนชื่อ コボちゃん Kobo chan การ์ตูนที่เขียนประจำอยู่ในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นฉบับหนึ่ง ยังมีตอนหนึ่งที่ล้อเลียนเลย การ์ตูนเขียนว่า “ แม่ของ コボちゃん Kobo chan ไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไรทานดี ขณะนั้น コボちゃん Kobo chan กำลังอาบน้ำในอ่างโอฟุโระ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็วิ่งล้อนจ้อนออกมา จนแม่เอ็ดเข้าให้ แต่แล้วแม่ก็มีไอเดียขึ้นมาทันทีว่า แม่ทำชาบูชาบู !!”
อย่างที่มีหลายกระแสเม้าท์มอยกันว่าคนที่สร้างเรื่องนี้มาขึ้นมาเก่งมากเพราะคิดจะเลื่อยขาเก้าอี้เศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยเอาเรื่องสุรานารีมาล่อและปั่นให้คนในสังคมเอาความอิจฉาริษยาของมนุษย์มาห้ำหั่นกันจนญี่ปุ่นเซได้อย่างมากจนถึงปัจจุบัน
สำหรับกรณีปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับนาย Fukuda นี้ เค้าก็เรียกกันว่า Fukuda Member เหมือนกันนะ เนื้อหาก็อย่างที่เล่าไปด้านบน เขาลาออกก่อนที่จะถึงเวลาเกษียณแค่ 2 ปีทำให้ชวดเงินสะสมก้อนใหญ่ที่ควรจะได้เมื่อเกษียณตามอายุการทำงาน ปัจจุบันเขาได้เงินสะสมจากการทำงานแค่ 50 ล้านเยน เหมือนเยอะแต่น้อยมากถ้าเทียบกับเงินสะสมที่ควรจะได้รับเมื่ออยู่จนครบวาระ คนญี่ปุ่นจึงมองว่าระบบ การทำงานเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่ง และระบบเงินสำรองเหล่านี้บางทีเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมในสังคม ไว้มีโอกาสจะเล่าเรื่อง 天下り Amakudari ให้ฟัง
Mr. Leon : จากกรณีนาย Fukuda มีนักเขียนที่ผมชอบเขียนบอกว่า นาย Fukuda เป็นโรคจิต แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เขาอาจจะแค่ทะลึ่งอย่างเดียว แต่เสียดายความเก่งเขาอีกแล้ว พวกเก่งๆ โดนเลื่อยขาโต๊ะกันจัง แต่ช่วยไม่ได้ตรงที่มันมีหลักฐานออกมานี่แหละน้า
วันนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับข่าวคาวของคนที่มีชื่อเสียง พ่วงเรื่องเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไปนิดหน่อยหวังว่าเพื่อนๆ คงไม่เบื่อนะครับ ต้องขอบคุณกัปตันด้วยครับที่มาเล่าให้ฟัง ไว้คราวหน้าจะเชิญมาอีก
__ ノ艘ヽ_
彡 ( ◆дﾟ) y─┛〜" <: โอเชนะ เข้าใจนะ
วันนี้สวัสดีครับ 彡 ( ◆Дﾟ) 人(｀ω´ , ) ﾉ"
