ทางการจังหวัดฟุกุชิมะของญี่ปุ่นยังหวังจะส่งออกอาหารทะเลไปยังประเทศไทยมากขึ้น ถึงแม้จะเผชิญกับความกังวลของผู้บริโภคเรื่องการปนเปื้อนรังสี ทั้ง ๆ ที่ผลการตรวจสอบพบว่ามีความปลอดภัย
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า งานกิจกรรมประชาสัมพันธ์การบริโภคปลาตาเดียวที่นำเข้าจากฟุกุชิมะของญี่ปุ่นถูกยกเลิกไปหลังเกิดความกังวลในหมู่ผู้บริโภค
กิจกรรมนี้จัดขี้นโดยร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง โดยมีกำหนดจัดไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม หลังจากมีการส่องออกปลาน้ำหนักกว่า 110 กก. จากท่าเรือเมืองโซมะ มายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เพื่อใช้ทำเป็นอาหารในภัตตาคารญี่ปุ่น 12 ร้านในกรุงเทพ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ปลาจะจังหวัดฟุกุชิมะส่งออกไปต่างประเทศหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ทำไมกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011
ทางการจังหวัดฟุกุชิมะกล่าวว่ากลุ่มผู้บริโภคแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของปลาที่ส่งออก โดยมีกลุ่มรณรงค์บางกลุ่มระบุว่าปลานั้นถูกจับมาจากบริเวณที่ปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อการบริโภค
กลุ่มรณรงค์ดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลไทยประกาศชื่อร้านอาหารที่จำหน่ายปลาที่นำเข้ามา ทำให้ร้านอาหารผู้จัดงานกิจกรรมกล่าวว่ายกเลิกงานไปเพื่อไม่ทำให้เกิดความสับสน
ผลตรวจสอบพบปลอดภัย ไร้กัมมันภาพรังสี
เจ้าหน้าที่ของทางการจังหวัดฟุกุชิมะกล่าวว่าพวกเขาได้รับแจ้งเมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 12 มีนาคมว่ากระทรวงสาธารณสุขของไทยตรวจไม่พบสารกัมมันตรังสีตกค้างในปลา
เจ้าหน้าที่ของทางการจังหวัดฟุกุชิมะวางแผนที่จะประชาสัมพันธ์ความปลอดภัยของปลาตาเดียวผ่านเว็บไซต์วีดิทัศน์ สื่อสังคมออนไลน์ และกิจกรรมชิมอาหารสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่น โดยหวังที่จะส่งออกปลาตาเดียวไปไทยมากขึ้นหลังผลการตรวจสอบของรัฐบาลไทยแสดงว่าปลาที่สงออกไปนั้นปลอดภัย
รัฐบาลและสหกรณ์การประมงญี่ปุ่นใช้ทั้ง “ไม้อ่อน” และ “ไม้แข็ง” เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในสินค้าที่ผลิตจากพื้นที่ประสบภัย เพราะเป็นส่วนสำคัญยิ่งที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยใช้ทั้งผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน และรณรงค์ให้ชาวญี่ปุ่นช่วยอุดหนุนสินค้าจากพื้นที่ประสบภัย
รัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการสารพัดเพื่อให้ประเทศคู่ค้ายกเลิกหรือผ่อนปรนคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากพื้นที่ประสบภัย โดยสหภาพยุโรป, สหรัฐ, สิงคโปร์, จีน ก็ผ่อนคลายคำสั่งห้ามนำเข้าบางส่วน.
ย้อนอ่าน “ปลาญี่ปุ่น” กลายเป็นเหยื่อโซเชียล สินค้าการเมือง
