ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
Tokyo University of Foreign Studies
Tokyo University of Foreign Studies
กงผละจากข้างยุ้งเก็บของ พอจะไปอีกทางหนึ่งก็ได้ยินเสียงร้องเร่ขายปลาอิวะชิมาจากไหนสักแห่ง
“อิวะชิถูก ๆ มาแล้ว อิวะชิสด ๆ จ้า”
กงวิ่งไปทางเสียงร้องแข็งขันที่เร่ขายปลาอยู่นั้น แล้วก็ได้ยินเสียงเมียของยะซุเกะจากประตูหลังบ้านพูดกับคนขายปลา
“ขอซื้อปลาอิวะชิหน่อยจ้ะ” เมียของยะซุเกะว่า
คนขายปลาหยุดรถที่ขนตะกร้าใส่ปลาอิวะชิไว้ที่ริมถนน ใช้สองมือหยิบปลาที่สะท้อนแสงวิบวับและเอาเข้าไปในบ้านของยะซุเกะ ในช่วงแวบหนึ่งนั้น กงคว้าปลาอิวะชิที่อยู่ในตะกร้าออกมาห้าหกตัว แล้วออกวิ่งกลับไปตามทางที่มาเมื่อครู่ ต่อมามันโยนปลาเข้าไปในบ้านของเฮียวจูจากทางประตูหลัง และมุ่งหน้ากลับโพรงของตัวเอง พอถึงบนเนินเขาระหว่างทางกลับ มันเหลียวหลังไปมอง เห็นเฮียวจูยังคงซาวข้าวสาลีอยู่ตรงบ่อน้ำเป็นภาพเล็ก ๆ
กงคิดว่าก่อนอื่นมันได้ทำเรื่องดี ๆ อย่างหนึ่งเพื่อชดเชยให้แก่เรื่องปลาไหลแล้ว
วันต่อมา กงเก็บเกาลัดที่ภูเขามาได้มากมาย มันหอบเกาลัดไปที่บ้านของเฮียวจู ลอบมองจากประตูหลังบ้านเข้าไป เห็นเฮียวจูกำลังจะกินอาหารกลางวัน เขาคิดอะไรเหม่อลอยขณะที่ถือถ้วยค้างไว้มืออยู่อย่างนั้น น่าแปลกที่บนแก้มของเฮียวจูมีรอยถลอก เป็นอะไรไปน่ะ?...กงคิดเช่นนั้น แล้วเฮียวจูก็พูดออกมาคนเดียว
“ใครกันหนอ ที่โยนปลาอิวะชิพวกนี้เข้ามาในบ้านข้า พระคุณของท่านแท้ ๆ เลยนะนั่น ข้าถึงได้ถูกมองว่าเป็นขโมย ถูกคนขายปลาเล่นงานเข้าให้” เฮียวจูพึมพำ
กงได้ยินเข้าก็คิดว่าแบบนี้ไม่ได้การละ เฮียวจูผู้น่าสงสาร ถูกคนขายปลาอัดเสียน่วม เป็นแผลถลอกปอกเปิกถึงขนาดนั้นเชียวหรือ
กงคิดพลางลอบเดินไปทางยุ้งอย่างเงียบเชียบ วางลูกเกาลัดไว้ที่ทางเข้า แล้วกลับรังของมัน
วันต่อมา แล้วก็วันต่อมาอีกเช่นกัน กงเก็บเกาลัดได้อีก และเอาไปที่บ้านของเฮียวจูอีก วันต่อมา...ไม่ใช่แค่ลูกเกาลัดเท่านั้น แต่กงเอาเห็ดมะสึตะเกะสองสามดอกไปให้ด้วย
ในคืนที่พระจันทร์ดูงามตาคืนหนึ่ง กงออกไปเที่ยวเล่นเรื่อยเปื่อย พอผ่านปราสาทของท่านนะกะยะมะไปหน่อย ดูเหมือนมีคนกำลังมาจากอีกฟากหนึ่งของทางเดินแคบ ๆ ได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงร้องของจิ้งหรีดมะสึมุชิดัง ชิง-ชิโระริง ชิง-ชิโระริง
กงหลบนิ่งที่ข้างถนน เสียงพูดคุยนั้นค่อย ๆ ดังใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา นั่นเป็นเสียงของเฮียวจูกับชาวนาชื่อคะซุเกะ
“เออ...เออ นี่ คะซุเกะ” เฮียวจูเอ่ย
“ว่าไงรึ”
“ช่วงนี้ เกิดเรื่องแปลกมาก ๆ ขึ้นกับข้าน่ะ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ตั้งแต่แม่ข้าตาย มีใครก็ไม่รู้ เอาลูกเกาลัดเอย เห็ดมะสึตะเกะเอย มาให้ข้าไม่เว้นแต่ละวันเลยนะ”
“เอ...ใครกันล่ะ”
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้หรอก เอามาวางไว้ตอนที่ข้าไม่รู้ตัวน่ะ”
กงตามสองคนนั้นไป
“จริงหรือนั่น”
“ก็จริงน่ะสิ ถ้าคิดว่าข้าปด พรุ่งนี้มาดูสิ จะเอาลูกเกาลัดที่ว่านั่นให้ดู”
“อือ...มีเรื่องประหลาดอย่างนี้ด้วยหรือ”
ครั้นคุยกันไปถึงตรงนั้นแล้ว สองคนก็พากันเดินเงียบ ๆ
คะซุเกะหันขวับกลับไปมองข้างหลัง กงตกใจหยุดกึกและยืนหดตัวจนเล็ก คะซุเกะไม่ทันสังเกตเห็นกงและออกเดินฉับ ๆ ต่อไปเช่นนั้น พอไปถึงบ้านของชาวนานามว่าคิชิเบ ทั้งสองคนก็เข้าไปในบ้านนั้น มีเสียงเคาะไม้ภาวนาดังป๊อก ป๊อก ป๊อก ป๊อก มีเสียงลอดผ่านบานหน้าต่างเลื่อนบุกระดาษ เห็นเงาหัวโล้นขนาดใหญ่ขยับเขยื้อนอยู่ กงคิดว่ามีการเจริญพุทธานุสสติถึงพระอมิตาภพุทธะ พลางหมอบลงที่ข้างบ่อน้ำ พอผ่านไปครู่หนึ่ง มีคนราวสามคนพากันเข้าไปในบ้านของคิชิเบอีก แล้วก็มีเสียงสวดมนต์ดังออกมา
กงหมอบอยู่ข้างบ่อจนกระทั่งการเจริญพุทธานุสสติจบลง เฮียวจูกับคะซุเกะกลับด้วยกันอีก กงตั้งใจว่าจะฟังสองคนนั้นคุยกัน จึงค่อย ๆ ย่องตามเงาของเฮียวจูไป
เมื่อถึงหน้าปราสาท คะซุเกะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เรื่องที่เจ้าเล่าเมื่อกี้ นั่นต้องเป็นเทพเจ้าเนรมิตแน่ ๆ”
“หือ?” เฮียวจูตกใจ มองหน้าคะซุเกะ
“ข้าคิดมาตลอดตั้งแต่เจ้าเล่าให้ฟัง ยังไง ๆ นั่นคงไม่ใช่มนุษย์ละมั้ง ต้องเป็นเทพเจ้า เทพเจ้าแน่ ๆ เลย เทพเจ้านึกสงสารที่เจ้าอยู่ตัวคนเดียว ก็เลยเสกอะไรต่อมิอะไรให้เจ้าน่ะสิ”
“ว่าไปโน่น จะใช่รึ”
“ไม่ผิดแน่ ฉะนั้น ทุก ๆ วัน เจ้าควรจะพูดขอบคุณเทพเจ้านะ”
“อือ”
กงได้ยินดังนั้น จึงคิดว่า อะไรกัน เจ้าหมอนี่ ช่างไม่เอาไหนเลย ข้าอุตส่าห์เอาเกาลัดแล้วก็เห็ดมะสึตะเกะไปให้ แต่ไม่ขอบคุณข้า กลับจะไปขอบคุณเทพเจ้าซะนี่ บ๊ะ...ช่างไม่สมควรเอาซะเลย
วันถัดมา กงเอาลูกเกาลัดไปที่บ้านของเฮียวจูอีก เฮียวจูเอาเชือกผูกยุ้งไว้ กงจึงแอบเข้าไปในบ้านทางประตูด้านหลัง ขณะนั้นเอง บังเอิญเฮียวจูเงยหน้าขึ้น พลันคิดได้ว่า เอ๊ะ...หมาจิ้งจอกเข้ามาในบ้านใช่ไหมนั่น เจ้าหมาจิ้งจอกกงที่ขโมยปลาไหลไปเมื่อไม่นานนี้มาก่อกวนอีกแล้ว
“เอาละทีนี้”
เฮียวจูลุกขึ้นยืน ไปฉวยปืนคาบศิลาที่แขวนอยู่กับยุ้ง อัดดินปืนเข้าไป ย่องไปใกล้ ๆ แล้วลั่นกระสุนใส่กงซึ่งตอนนี้กำลังจะออกจากประตูบ้านดังปัง
กงร่วงผล็อยทันที เฮียวจูรุดเข้าไป เมื่อมองดูภายในบ้าน ก็เห็นเกาลัดบนพื้น วางกองรวมกันอยู่
“นี่อะไรกัน” เฮียวจูร้องด้วยความตกใจ ก้มมองร่างไร้ชีวิตของกง
“กง แกเองหรือ แกนี่เองที่เอาลูกเกาลัดมาให้ตลอด”
กงพยักหน้าทั้งที่อยู่ในสภาพตาปิดอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
เฮียวจูทิ้งปืนลงทันที ควันสีฟ้ายังคงลอยเป็นสายบาง ๆ จากปากกระบอกปืน
หมายเหตุ : เรื่อง “กง-กิสึเนะ” (ごん狐;Gon-gitsune) หรือ “สุนัขจิ้งจอกกง” นี้เป็นผลงานวรรณกรรมเยาวชนชิ้นเอกของญี่ปุ่น ได้รับการบรรจุในหนังสือแบบเรียนภาษาประจำชาติระดับประถมศึกษาเรื่อยมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1950 มีการนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์การ์ตูนและแปลเป็นภาษอังกฤษด้วย (อ่านครึ่งแรกได้ที่นี่ https://mgronline.com/japan/detail/9610000002008)
**********
คอลัมน์ญี่ปุ่นมุมลึก โดย ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ แห่ง Tokyo University of Foreign Studies จะมาพบกับท่านผู้อ่านโต๊ะญี่ปุ่น ทุกๆ วันจันทร์ ทาง www.mgronline.com