สมาชิกสภามหานครโตเกียวชุดใหม่มีผู้หญิงได้รับเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 30 ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายยุริโกะ โคะอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว
การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงโตเกียวในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนางยุริโกะ โคะอิเกะ จะประสบความสำเร็จในการนำพาลูกพรรคเข้าสู่สภาได้มากเป็นอันดับ 1 แล้วสมาชิกสภากรุงโตเกียวชุดใหม่ยังมีผู้หญิงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 36 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนสมาชิกทั้งสภา 127 คน เพิ่มจากสภาชุดปัจจุบันที่มีสมาชิกสภาผู้หญิง 25 คน
นางโคะอิเกะได้จัดตั้งกลุ่มการเมืองของตนเอง ก่อนที่จะยกระดับมาเป็นพรรคการเมืองระดับท้องถิ่นชื่อว่า พรรคโทะมิงเฟิสต์ ที่แปลว่า “ชาวเมืองต้องมาก่อน” เธอได้ชักนำคนรุ่นใหม่และหญิงสาวเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองมากขึ้น โดยระบุว่าแม้คนเหล่านี้ขาดประสบการณ์ทางการเมือง แต่สามารถนำความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านอื่น ๆ มาใช้เป็นแนวทางใหม่ในการทำงานได้
ผู้ว่าการกรุงโตเกียว กล่าวในการแถลงข่าวว่า การที่พรรคของเธอประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการของผู้ออกเสียงเลือกตั้งชาวโตเกียวที่อยากจะเปลี่ยนแปลงสภามหานครโตเกียวเดิมเพื่อสิ่งใหม่ ๆ เธอให้คำมั่นจะสร้างการบริหารกรุงโตเกียวรูปแบบใหม่ หลังจากที่พรรคของเธอชนะแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งสภามหานครโตเกียว
เรนะ ไซโตะ นักร้องและคุณแม่ลูก 2 วัย 38 ปีที่ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภากรุงโตเกียว ระบุว่า เธอต้องการทำงานด้านการสนับสนุนการดูแลเด็กและป้องกันการละเมิดต่อเด็ก นักร้องผู้อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 10 ปี บอกว่า เธอต้องเข้าสู่วงการการเมืองเพื่อเป้นเครื่องมือขับเคลื่อนระบบสวัสดิการ ที่ทำให้ผู้หญิงสามารถทำงานและดูแลครอบครัวไปได้พร้อมๆกัน
อะยุมิ ไซโกะ คุณแม่ซึ่งอุ้มท้อง 4 เดือนลงสมัครรับเลือกตั้ง ระบุว่า ถึงแม้สุขภาพของเธอจะไม่พร้อมสำหรับการหาเสียงอย่างต่อเนื่อง แต่เธอกลับได้รับการสนับสนุนอย่างอบอุ่นจากชาวเมืองจนเข้าสู่สภาได้สำเร็จ เธอระบุว่าจะผลักดันนโยบายเพิ่มวันลาคลอดสำหรับทั้งว่าที่คุณแม่และคุณพ่อ เพื่อให้ทั้ง 2 คน สามารถดูแลลูกน้อยหลังแรกเกิดอย่างมีคุณภาพ
สังคมญี่ปุ่นถูกครอบงำโดยผู้ชายเป็นใหญ่ บริษัทจำนวนมากไม่จ้างงานพนักงานหญิง เพราะกลัวว่าพวกเธอจะทำงานไม่เต็มที่ และผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากยังมีแนวโน้มจะลาออกจากงานหลังจากแต่งงานหรือมีลูก
คุณแม่นักการเมืองจำนวนมากเห็นตรงกันว่า ญี่ปุ่นขาดแคลนสถานรับเลี้ยงเด็กที่ได้มาตรฐาน เด็กกว่า 1,000 คนต้องเข้าคิวรอเพื่อเข้าสู่สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือไม่ก็จำยอมต้องจ่ายเงินแพงมากเพื่อใช้บริการสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน ทำให้คุณแม่ทั้งหลายจำเป็นต้องลาออกจากงานเพื่อดูแลลูก
ถึงแม้นายกฯชินโซ อะเบะ จะประกาศนโยบาย “สร้างพลังผู้หญิง” มาตั้งแต่ได้รับตำแหน่งใหม่ๆ แต่นางยุริโกะ โคะอิเกะ กลับเป็นตัวอย่าง “พลังผู้หญิง” ที่ชัดเจนที่สุด เมื่อเธอลาออกจากพรรค LDP และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามอิสระจนได้เป็นผู้ว่าการกรุงโตเกียว และในการเลือกตั้งครั้งนี้เธอยังนำพาผู้หญิงจำนวนมากเข้าสู่สภา ผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียง “ดอกไม้งาม” แต่จะเป็น “พลังใหม่” ในการขับเคลื่อนแดนอาทิตย์อุทัย.
