ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีตู้ขายของอัตโนมัติหนาแน่นมากที่สุดในโลก ตู้เหล่านี้ไม่เพียงเป็นที่พึ่งของผู้บริโภคได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในความสะดวกสบายก็มีบรรยากาศของความโดดเดี่ยว หรือแม้กระทั่ง “ความหลอน” ในยามราตรี
ตู้ขายของอัตโนมัติเริ่มมีในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 1888 เพื่อขายบุหรี่ หลังจากนั้นก็ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และขายสินค้าแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ขนม, เครื่องดื่ม, หนังสือ ไปจนถึงของใช้แทบทุกอย่าง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีตู้ขายของอัตโนมัติหนาแน่นมากที่สุด ตั้งอยู่แทบทุกหัวถนนทั่วประเทศมากกว่า 5.5ล้านตู้ หรือเทียบเป็นสัดส่วน 1เครื่องต่อประชากร 23 คน
ตู้ขายของอัตโนมัติเป็นเหมือน “โอเอซิส” ของผู้ที่หิวกระหายในยามค่ำคืน รวมถึงคนที่ ทำงานหรือเดินถนนยามกลางคืนก็จะรู้สึกปลอดภัยขึ้นทันที เมื่อเห็นแสงสว่างจากตู้ขายของอัตโนมัติบนถนนที่มืดมิด
Benedikt Partenheime ศิลปินชาวเยอรมัน ได้เดินทางมาเยือนญี่ปุ่น และถ่ายภาพตู้ขายของอัตโนมัติในยามราตรี เพื่อสร้างผลงานศิลปะที่ได้มีการจัดแสดงในปี 2014 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮารา เขาบอกว่า “ตู้ขายของอัตโนมัติอาจเป็นของอย่างเดียวที่คงอยู่ในวันสิ้นโลก”
คำกล่าวของศิลปินชาวเยอรมันกลายเป็นความจริง หลังเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่มจังหวัดฟุกุชิมะ ในพื้นที่ประสบภัยที่ร้างผู้คน แต่ตู้ขายของอัตโนมัติยังคงส่องแสงสว่างยามค่ำคืนท่ามกลางซากปรักหักพัง
อย่างไรก็ตาม ความสะดวกจากตู้ขายของอัตโนมัติต้องแลกด้วยพลังงานที่มากมาย โดยถ้ารวมจำนวนไฟฟ้าที่ตู้ขายของอัตโนมัติทั่วประเทศญี่ปุ่นใช้ จะมากกว่ากำลังการผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หนึ่งโรงด้วยซ้ำ
เพื่อตอบสนองต่อนโยบายประหยัดพลังงาน บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มหลายรายได้ผลิตตู้ขายของอัตโนมัติที่ประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมถึงครึ่งหนึ่ง ไม่เพียงแต่เปิด-ปิดไฟตามการเคลื่อนไหวที่ด้านหน้าตู้ แต่ยังลดการใช้พลังงานของตู้เย็น รวมทั้งติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย.
