ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ออกรายงานระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นแทรกแซงสื่อทั้งทางตรงและทางอ้อม เดินหน้าผลักดันกฎหมายและนโยบายที่ต้องการทั้งๆที่มีเสียงคัดค้านอย่างกว้างขวาง
นายเดวิด เคย์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ได้จัดทำรายงานเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออกในญี่ปุ่น ระบุว่าสื่อญี่ปุ่นเผชิญกับการกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นทบทวนกฎหมายว่าด้วยการแพร่ภาพและกระจายเสียงเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของสื่อ โดยยกเลิกเหตุที่ทำให้รัฐบาลสามารถเข้ามาแทรกแซงสื่อได้
ผู้แทนของสหประชาชาติระบุว่า รัฐบาลของนายกฯชินโซ อะเบะ ไม่ฟังเสียงคัดค้าน เดินหน้าผลักดันกฎหมายหลายฉบับที่เป็นที่วิจารณ์ว่าส่งผลกระทบต่อเสรีภาพและสิทธิของประชาชน เช่น ชุดกฎหมายความมั่นคง ที่รัฐบาลผลักดันจนผ่านรัฐสภาในชั่วข้ามคืนจะเกิดเหตุตะลุมบอนในรัฐสภาญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีกฎหมายคุ้มครองความลับของชาติ และกฎหมายต่อต้านอาชญากรรม ซึ่งระบุให้ “การเตรียมการ” และ“สมคบคิด” เพื่อก่ออาชญากรรม 277 ฐานความผิดจะต้องถูกลงโทษ รวมไปถึงความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพของญี่ปุ่นด้วย กฎหมายเหล่านี้ถูกคัดค้านอย่างกว้างขวางจากนักกฎหมายและประชาชน ที่เห็นว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจเพื่อปิดปากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยอ้าง “ความมั่นคงของชาติ”
ศาสตราจารย์เดวิด เคย์ ยังแสดงความกังวลถึงแนวคิดของพรรครัฐบาล LDP ที่ต้องการแก้ไขมาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญที่รับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยจะให้ “กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำลายผลประโยชน์สาธารณะและความสงบเรียบร้อน” ไม่ถือเป็นเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่น โดยนายโคอิชิ ฮะกิอุดะ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงว่า รายงานของผู้แทนของสหประชาชาติเกิดจากความเข้าใจผิด รัฐบาลญี่ปุ่นเคยขอโอกาสหลายครั้งในการทำความเข้าใจกับผู้เสนอรายงาน แต่จุดยืนของรัฐบาลกลับไม่ได้รับการตอบสนองในรายงานนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงรู้สึกผิดหวังกับรายงานชิ้นนี้อย่างมาก และจะไปชี้แจงต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอย่างละเอียดต่อไป.