รองนายกรัฐมนตรี ยันโทษประหารยังมีอยู่ในกฎหมาย แต่ 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่เคยสังหารจริง ยังไม่ยกเลิกแต่ให้เปลี่ยนเป็นจำคุกตลอดชีวิต รับโลกมี 2 กระแส วอนอย่าบีบให้ใช้ เดี๋ยวชาวโลกอ้างทารุณโหดร้าย บอกเขมรก็เลิกแล้ว
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ ระบุโทษประหารชีวิตไม่มีจริง เพื่อให้น้องสาวกลับมารับโทษว่า โทษประหารชีวิตมีอยู่ในกฎหมาย แต่เราได้รับปากในที่ประชุมกรรมการสิทธิมนุษยชนที่กรุงเจนีวา ที่ขอร้องให้เรายกเลิก เรายังยกเลิกไม่ได้แต่ความผิดใหม่จะไม่กำหนดโทษประหารชีวิต และจะทยอยเปลี่ยนจากโทษที่บังคับให้ประหารชีวิตอย่างเดียวให้มีทางเลือกจำคุกตลอดชีวิตได้ และ 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการบังคับใช้โทษประหารชีวิตจริง และตามมาตรฐานของสหประชาชาติ และกรรมการสิทธิมนุษยชนโลกถือว่าในประเทศที่มีโทษประหารชีวิตแต่ไม่มีการบังคับประหารใครจริงในระยะ 10 ปี ให้ถือว่าไม่มีโทษประหารชีวิต
เมื่อถามว่า การที่เราไม่ได้ปฏิบัติจริงทำให้ผู้กระทำผิดไม่ยำเกรงกฎหมาย นายวิษณุกล่าวว่า กระแสโลกมี 2 กระแส คือ ทำเสียเลยผู้กระทำผิดจะได้ยำเกรง อีกกระแสคือโทษประหารชีวิตรุนแรงขัดต่อหลักมนุษยธรรม หากลงโทษผิดตัวจะแก้ไขไม่ได้ กระแสของกรรมการสิทธิมนุษยชนอยากให้เลิก แต่ไม่ได้รบเร้า ดังนั้นการอยู่แบบประเทศไทยก็ปลอดภัยดี คือมีเอาไว้ปรามแต่ก็ไม่แน่อาจจะงัดมาใช้ก็ได้ แต่อย่าเรียกร้องให้ใช้ เพราะถ้าใช้ไปแล้วจะมีคนออกมาบอกว่าทารุณโหดร้าย หลายประเทศ เช่น กัมพูชา ก็ยกเลิกแล้ว
“ผมไม่ได้หมายความว่าให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต หรือไม่ให้นำมาใช้ เอาว่ามันมีอยู่และอาจจะใช้ในทางปฏิบัติศาลก็ลงอยู่ เพียงแต่ไม่ได้ประหารใครจริง เพชฌฆาตก็ว่างงานมา 7-8 ปี” นายวิษณุกล่าว