ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นเตือนนักท่องเที่ยวที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน free Wi-Fi ให้ระะวังความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว และไม่ควรทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นและร้านค้าต่างๆ ต้องเพิ่มบริการอินเทอร์เน็ต free Wi-Fi ตามเสียงเรียกร้องของนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบแผนที่ และแชร์ภาพและเรื่องราวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์
free Wi-Fi เหล่านี้ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและเข้าใช้ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใดๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว หากแต่ในความสะดวกนี้ก็มีจุดอ่อนในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ถูกขโมยรหัสผ่านต่างๆ และนำไปใช้ก่ออาชญากรรม หรือสูญเสียเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้
ความจริงแล้ว ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่แทบไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตfree Wi-Fi ทำให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีไม่แพร่หลายในญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงแรกที่รัฐบาลญี่ปุ่นริเริ่มเพิ่มบริการ free Wi-Fi นั้นได้พยายามหาวิธีเพิ่มความปลอดภัย เช่น กำหนดให้ต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น, ลงทะเบียนด้วยอีเมล์ รวมทั้งจำกัดบริการในพื้นที่สำคัญ เช่น สนามบิน, สถานีรถไฟ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้น หากแต่นักท่องเที่ยวต่างวิจารณ์ถึงความยุ่งยาก ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนระบบ โดยทุกวันนี้ free Wi-Fi ในญี่ปุ่นสามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย โดยเพียงแต่เชื่อมสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
ความสะดวกแลกด้วยความเสี่ยง
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตเตือนว่า ไม่ควรใช้ free Wi-Fi ในเรื่องงานสำคัญและทำธุรกรรมการเงินทุกประเภท เช่น ซื้อสินค้าออนไลน์ หรือ ส่งอีเมล์ธุรกิจ เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยพาสเวิร์ด, ข้อมูลบัตรเครดิต รวมทั้งอาจติดไวรัสทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
ที่ญี่ปุ่นเคยมีกรณีขโมยข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตนำไปปลอมแปลงบัตรเครดิตสร้างความเสียหายสูงถึง1,400 ล้านเยน และทำให้ตู้ ATMทั่วญี่ปุ่นถูกจำกัดการถอนเงินสดต่อครั้งจาก 1แสนเยนเหลือเพียง 5หมื่นเยนในทุกวันนี้
อ่านย้อนหลัง : ปล้นสะท้านญี่ปุ่น 3 ชั่วโมง ถอนเงิน 1,400 ล้านเยน
นอกจากนี้ยังมีกรณีสวมรอยอีเมล์ ส่งข้อความไปยังญาติมิตรเพื่อนฝูงหลอกลวงว่ากำลังมีปัญหาต่างๆ เพื่อล่อลวงและขอยืมเงินเป็นต้น
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้ free Wi-Fi ไม่ใช่เพียงผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลถึงลูกค้าและเพื่อนฝูงที่เคยติดต่อกันผ่านอีเมล์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ด้วย
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการซื้อซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด ซึ่งมีจำหน่ายที่สนามบินและร้านค้าใหญ่ๆในญี่ปุ่น.