ญี่ปุ่นเตรียมเริ่มออกใบรับรอง จัดระเบียบ “เชฟอาหารญี่ปุ่น” ในต่างแดน

MGR Online – ปี 2559 นี้ ทางการญี่ปุ่นวางแผนออกประกาศนียบัตร รับรองเชฟอาหารญี่ปุ่นที่ทำงานในต่างแดน แบ่งระดับ “ทอง-เงิน-ทองแดง” หวังยกระดับมาตรฐาน และเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าเกษตร ประมง และวัตถุดิบ

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า ในปี 2559 นี้เจ้าหน้าที่ของทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่ากำลังจะเปิดตัวระบบในการรับรองเชฟอาหารญี่ปุ่นชาวต่างชาติ เพื่อเพิ่มคุณภาพของอาหารแบบดั้งเดิมญี่ปุ่นที่เสิร์ฟในต่างประเทศ และเพื่อเพิ่มความนิยมของสินค้าเกษตรและสินค้าประมงของญี่ปุ่นเอง

ญี่ปุ่นหมายมั่นปั้นมือว่า “วาโชกุ (Washoku)” หรือ วัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งในเดือนธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่กลับพบว่าร้านอาหารที่อ้างว่าเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นในต่างแดนนั้นไม่มีมาตรฐานเท่าที่ควร

เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเปิดเผยด้วยว่า กระทรวงกระทรวงการเกษตร ป่าไม้และประมง กำลังทำคู่มือในการตรวจสอบระดับมาตรฐานของพ่อครัวในร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านซูชิในต่างแดน โดยวัดตามความเข้าใจในวัฒนธรรมของอาหาร, การจัดการกับปลาดิบและอาหารทะเลชนิดต่างๆ, มารยาทและดูแลลูกค้าในร้าน รวมไปถึงการนำเสนออาหารแต่ละจาน และการต้อนรับลูกค้าด้วย

กระทรวงการเกษตรฯ ของญี่ปุ่นจะตั้งหน่วยงานอิสระเพื่อบริหารจัดการระบบการออกใบรับรองผ่านระบบเปิด โดยวิทยาลัยด้านการอาหารและร้านอาหารจะเปิดอบรม และให้การศึกษาเรื่องแนวปฏิบัติกับพ่อครัวที่ต้องการรับใบรับรอง

ทั้งนี้ พ่อครัวชาวต่างชาติที่เคยทำงานในญี่ปุ่นมายาวนานตั้งแต่สองปีขึ้นไปจะได้รับสถานะ “ระดับทอง” ขณะที่พ่อครัวที่เรียนทำอาหารญี่ปุ่นในวิทยาลัยด้านการอาหารนานกว่า 6 เดือนจะได้รับสถานะ “ระดับเงิน” ส่วนพ่อครัวที่ได้รับการฝึกอบรมไม่กี่วันนั้นจะถูกจัดอยู่ใน “ระดับทองแดง” โดยใบรับรองหรือประกาศนียบัตรนี้พ่อครัวสามารถที่จะนำไปแสดงในร้านอาหารที่ตนทำงานในต่างแดนได้

“ด้วยการเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับวาโชกุนี้ เราหวังว่าจะช่วยยกมาตรฐานอาหารญี่ปุ่นในต่างแดน และช่วยเพิ่มการส่งออกให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและวัตถุดิบต่างๆ ของญี่ปุ่นได้” เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯ ญี่ปุ่นเผย

จากสถิติของกระทรวงเกษตรฯ ญี่ปุ่น พบว่า ณ เดือนกรกฎาคม 2558 มีร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างแดนที่ลงทะเบียนไว้ราว 88,700 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดิมในปี 2556 ที่มีเพียง 55,100 แห่ง