นักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลมาเที่ยวญี่ปุ่นมากเป็นอันดับที่ 1 หากแต่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์หลายอย่างของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ชาวไต้หวันซึ่งพูดภาษาจีนเหมือนกันต้องสงบเสงี่ยมเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเกรงจะถูกเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีน
“ซันเคอิ ชิมบุน” สื่อมวลชนของญี่ปุ่นนำเสนอรายงานข่าวเรื่อง “ขายหน้าถ้าถูกมองว่าเป็นคนจีน นักท่องเที่ยวไต้หวันจำใจสงบปาก” ถูกกล่าวขานอย่างร้อนแรงทั้งในประเทศญี่ปุ่น และยังถูกถ่ายทอดต่ออย่างแพร่หลายโดยสื่อมวลชนทั้งในไต้หวันและฮ่องกง เนื่องจากบทความดังกล่าวไม่เพียงแต่ “แทงใจดำ” ของทั้งชาวจีนใหญ่จีนน้อย แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ “หวานอมขมกลืน” ระหว่างจีน,ไต้หวัน และญี่ปุ่น
คำว่า “บักคุไค” 爆買い หรือ “ซื้อแหลก” ได้รับการโหวตให้เป็นคำภาษาญี่ปุ่นยอดนิยมประจำปี 2015 โดยคำนี้เกิดจากการผสมระหว่างคำว่า “ระเบิด” และ “ซื้อ” สะท้อนถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน ที่กว้านซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า
แน่นอนว่าพลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนมีส่วนสำคัญในการกอบกู้เศรษฐกิจของญี่ปุ่น หากแต่พฤติกรรมหลายอย่างของบรรดานักท่องเที่ยวจีน ทำให้ชาวญี่ปุ่นลำบากใจและอาจถึงขั้นรังเกียจว่าเป็นพวกที่ “มีแต่เงิน” พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนยังทำให้นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ซึ่งพูดภาษาจีนเหมือนกันต้องสงบเสงี่ยม เพราะเกรงจะถูกเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีน
ซันเคอิ ชิมบุนอ้างความเห็นของนักท่องเที่ยวไต้หวันวัย 60 ปีที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น 10 วันระบุว่า เมื่อใช้ภาษาจีนรู้สึกได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของพนักงานชาวญี่ปุ่นทั้งในโรงแรมและร้านค้าต่างๆ ทำให้เมื่ออยู่ในที่สาธารณะจึงไม่กล้าพูดภาษาจีน หรือต้องพูดเสียงเบา เพราะกลัวจะถูกเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีน
นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันอีกรายหนึ่ง บอกว่า ลูกสาวที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นกำชับว่า “ถ้าไม่อยากถูกดูแคลน อย่าพูดเสียงดังด้วยภาษาจีน”
ขณะที่บทความที่ได้รับการถ่ายทอดโดยสื่อมวลชนภาษาจีนนั้น มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้าน เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ถูกขยายให้ใหญ่โต เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนมาก ขณะที่ชาวจีนหลายคนเสียดสีชาวญี่ปุ่นว่า "เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง"
จีน-ไต้หวัน บ้านพี่เมืองน้อง สายเลือดไม่แบ่งแยก?
สื่อมวลชนของญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า เดิมทีชาวไต้หวันเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ที่เดินทางเยือนญี่ปุ่น โดยในปี 2014 มีชาวไต้หวันมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นมากกว่า 2ล้าน8แสนคน ขณะที่ชาวจีนเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น 2ล้าน4แสนคน หากแต่ในปีนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่อนคลายข้อจำกัดด้านวีซ่าให้กับชาวจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลมายังญี่ปุ่นมากเป็นประวัติการณ์ โดย 10เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาญี่ปุ่นมากกว่า 4ล้าน 3แสนคน ขณะที่นักท่องเที่ยวไต้หวันถูกทิ้งห่างด้วยจำนวน 3ล้าน1แสนคน
ซันเคอิ ชิมบุน วิเคราะห์ว่า ทัศนคติของนักท่องเที่ยวไต้หวันที่มาเยือนญี่ปุ่นสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างจีนและไต้หวัน โดยถึงแม้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วของไต้หวัน จะสร้างประวัติศาสตร์โดยพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 66 ปีหลังจากสงครามภายในจีนสิ้นสุดลง หากแต่การเมืองที่ดูเหมือนทั้งสองจีนจะใกล้ชิดกันมากขึ้นนั้น ไม่อาจสะท้อนความรู้สึกของชาวไต้หวันว่าผูกพันกับแผ่นดินใหญ่มากน้อยเพียงไหน
ชาวไต้หวันจำนวนมากกลับรู้สึกว่า ไต้หวันและจีนแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งระบบการเมือง, ค่านิยม ตลอดจนพฤติกรรมของประชาชน ชาวไต้หวันยอมรับว่าจำเป็นต้องพึ่งพาจีนทางด้านการค้า แต่หากจะถูกตีขลุมว่าเป็น “จีนเดียว” นั้นคงยากที่จะทำใจยอมรับได้.