สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันมาก นั่นคือ เมืองโอตารุ เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์บนเกาะฮอกไกโด เป็นเรื่องแปลกอย่างหนึ่งที่ช่วงเดือนธันวาคมแพคเกจทัวร์จากโตเกียวไปฮอกไกโด จะราคาถูกเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นคนญี่ปุ่นเลยไม่ค่อยอยากไปเที่ยวหรือเปล่า แต่ผมได้ยินว่าคนไทยชอบหิมะและอากาศหนาว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่น่าไปเที่ยวมากๆ ครับ
มีวลีเปรียบเปรยลักษณะนิสัยของคนที่เกี่ยวกับสภาพอากาศด้วยครับ เพื่อนๆ เคยได้ยินไหม เช่น คำว่า 冷たい Tsumetai ปกติแปลว่า เย็น แต่เอามาใช้เป็นคำแสลงกับนิสัยคนว่า เป็นคนเย็นชา ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรๆ ไม่ชอบช่วยใคร หรือคำว่า 寒い Samui ปกติแปลว่า หนาว แต่นำมาใช้เป็นคำแสลงว่า ไม่สนุก ไม่เท่ห์ ถ้าบอกว่า 寒い人 Samui hito คือ โดนด่าครับว่า เป็นคนไม่สนุก น่าเบื่อ ประมาณนั้นครับ
あのホテルのバー はメチャ寒いな〜 (´・_・`)
Ano hotel no bar wa mecha samui naa
อย่างประโยคนี้ บอกว่าบาร์ของโรงแรม Samui ก็เป็นประโยคแสลงประมาณว่าเชย ไม่ทันสมัย ( ไม่ได้เกี่ยวกับอากาศหนาวเย็นเลย )
แต่ถ้าพูดว่า Atatakai ปกติแปลว่า อบอุ่น ถ้าใช้กับนิสัยคนจะใช้ในเชิงบวก ที่แปลว่าเป็นคนที่อบอุ่น ใส่ใจสิ่งอื่น ส่วนคำว่า Atui ปกติแปลว่าร้อน แต่ถ้าใช้กับนิสัยคนกลับใช้ในความหมายบวกที่เเปลว่า เป็นคนมีความตั้งใจ ตรงนี้จะต่างจากเมืองไทยนิดหน่อยใช่ไหมครับ ถ้าบอกร้อน เมืองไทยจะใช้ในความหมายของนิสัยเชิงลบ แต่ถ้าเย็นจะใช้เชิงบวก
เข้าเรื่องเที่ยวฮอกไกโดกันครับ ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินจากโตเกียว จะไปลงที่สนามบิน Shin Chitose Air port ที่ซับโปโร หรือรถไฟชินกันเซนจากโตเกียวตอนนี้มีไปถึงที่ฮาโกดาเตะเลยครับ ที่จริงไม่ว่าเมืองไหนบนเกาะฮอกไกโดนี้ก็น่าเที่ยวและมีจุดน่าสนใจมากมายเลย พอท่านเดินทางมาถึงฮอกไกโดแล้วก่อนที่จะเดินทางไปโอตารุ อาจแวะเที่ยวออนเซ็นก่อน ซึ่งมีหลายที่มาก เช่น Nobori betsu onsen ออนเซ็นที่นี่ร้อนมากเวลาลงควรระวังนะครับ
เมื่อเดินทางมาถึงเมืองโอตารุแล้ว ท่านอาจจะมาโดยรถไฟ หรือเช่ารถขับชมเมืองก็ตาม เมื่อถึงแล้วท่านจะเห็นเมืองเล็กๆ น่ารักๆ มีมนต์เสน่ห์ แต่ช่วงเดือนธันวาคมอย่างที่บอกครับหนาวมากทีเดียว เตรียมกันหนาวมาให้พร้อมนะครับ ทีนี้มาลองดูกันครับว่าเราจะไปเที่ยวไปไหนกันดี ผมจะแนะนำสัก 2-3 ที่ครับ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเมืองโอตารุกันสักนิดครับ เมื่อก่อนโอตารุเป็นเมืองท่าสำหรับติดต่อกับเมืองฝรั่ง มีท่าเรือเพราะติดทะเลด้านตะวันตกเฉียงเหนือของนครซัปโปโร ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมตะวันตกมากมายให้เดินเที่ยวชมกัน สถานที่ต่างๆ สามารถเดินไปได้ เช่น
☃โรงงานเครื่องแก้ว สามารถเดินจากสถานีรถไฟโอตารุไปเรื่อยๆ ได้ เดินชมเมืองไปด้วย จนกระทั่งไปถึงคลองโอตารุ โรงงานจะมีลักษณะคล้ายร้านค้าซะมากกว่านะครับ จะตั้งอยู่เลียบริมคลองโอตารุ ไม่ไกลจากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวนัก ด้านบนเป็นหอคอยคู่หลังคาเป็นโดม สำหรับชมวิวมุมสูงของเมือง ที่โรงงานสามารถชมสาธิตวิธีการทำเครื่องแก้ว และมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแก้ว กล่องดนตรีต่างๆ สวยงามน่ารักจริงๆ ผมอยู่ในนี้นานเลยละครับ
☃พิพิธภัณฑ์เมืองโอตารุ(Otaru City Museum) จะเป็นพิพิธภัณฑ์ 2 แห่งตั้งแยกกัน คือ
1. พิพิธภัณฑ์อาคารคลองโอตารุ(Canal Building) เป็นคลังสินค้าเก่าดั้งเดิมสมัยที่โอตารุยังเป็นเมืองท่า ตั้งติดกับคลองโอตารุ(Otaru Canal) ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และธรรมชาติของเมืองโอตารุ ตั้งแต่สมัยที่คนไอนุ (Ainu people) อาศัยอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโด และการเคลื่อนไหวการอนุรักษ์ของเมืองโอตารุในปี 1970 ภายในมีของเก่า สมัยโบราณมากมาย และมีของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อด้วยครับ
สำหรับค่าเข้าชม มีค่าใช้จ่ายคนละ 300 เยน (หรือ 500 เยน สำหรับตั๋วรวมเข้าชมพิพิธภัณฑ์รถไฟโอตารุ) เวลาเปิด-ปิด: 9:30 น.-17:00 น.
วันปิดทำการ: วันที่ 29 ธันวาคม - 3 มกราคม ของทุกปี
2. พิพิธภัณฑ์รถไฟโอตารุ(Railway Museum) จะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีปลายทางรถไฟเก่าของฮอกไกโด เมื่อก่อนเคยเชื่อมต่อท่าเรือโอตารุกับซัปโปโร ภายในพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงเกี่ยวกับรถไฟต่างๆ หลายขนาด ตั้งแต่สมัยโบราณ และมีนิทรรศการอธิบายประวัติศาสตร์ของการรถไฟโอตารุ
สำหรับค่าเข้าชม มีค่าใช้จ่ายคนละ 400 เยน (หรือ 500 เยน สำหรับตั๋วรวมเข้าชมพิพิธภัณฑ์อาคารคลองโอตารุ) เวลาเปิด-ปิด: 9:30 น. -17:00 น.
วันปิดทำการ: ทุกวันอังคาร (กรณีที่วันอังคารเป็นวันหยุดจะปิดในวันพุธ)
และปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 3 มกราคม ของทุกปี
☃ทัศนียภาพริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area) คลองโอตารุตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟโอตารุ แทบจะอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ สมัยก่อนใช้คลองนี้เป็นท่าเรือขนส่งกับต่างชาติ ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ต่อมาเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมากขึ้น สามารถขนส่งสินค้าผ่านเรือลำใหญ่ได้โดยตรง คลองโอตารุได้รับการบูรณะให้สวยงามขึ้นเมื่อปี 1980 โกดังเก่าริมคลองยังคงสภาพดั้งเดิมแต่เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ชาวเมืองนิยมมาเดินเล่นริมคลอง ตามถนนเรียบคลองมีศิลปินมาโชว์ผลงานให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาชม คล้ายๆ ถนนอาร์ทๆ เดินกับคนรักโรแมนติกจริงๆ ครับ ช่วงกลางคืนมีการประดับประดาไปด้วยโคมไฟก๊าซโบราณ ยิ่งทำให้บรรยากาศริมคลองโรแมนติกมากขึ้น นอกจากนั้นอย่างที่บอกครับฤดูหนาวมีหิมะตก ขาวโพลนที่นี่มีการจัดเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ สวยงามจริงๆครับ
เดินชมเมืองกันมาจนเริ่มหิวแล้วใช่ไหมครับ หาอะไรลองท้องกันหน่อยดีกว่าครับ ที่ฮอกไกโดเป็นเมืองที่อาหารค่อนข้างอร่อยมากเลยทีเดียว ที่โอตารุเองก็อร่อย ยิ่งเป็นพวกซูชิ ซาชิมิ นี่สดอร่อยมาก ที่นี่มีถนนที่ชื่อว่า ถนนซูชิยะ Sushiya Dori บนถนนเส้นนี้มีร้านซูชิเรียงรายหลายร้าน มาตั้งรวมตัวกัน ณ ถนนเส้นนี้ครับ อาหารขึ้นชื่อของโอตารุคือ ซูชินั่นเองครับ ปลาดิบชนิดต่างๆ เอย ไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน หรืออาหารอื่นๆ ล้วนแล้วแต่สดอร่อย แม้แต่ร้านซูชิแบบหมุน ยังอร่อยมาก ผมสั่งซูชิหน้าปลาที่ชื่อว่า 金目鯛 kin me dai (กินไม่ได้ : พ้องกับภาษาไทยเลยนะครับ ) ยังอร่อยมาก ถ้าเพื่อนๆ ไปลองสั่งดูนะครับไม่ต้องอายพูดไปเลยว่า กินไม่ได้! (ยิ้ม)
ส่วนถ้าท่านใดสนใจอ่านเกี่ยวกับเรื่องซูชิเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ครับ
ข้อไม่ควรทำเมื่อไปร้านซูชิ ตอนที่ 1 ซูชิสายพาน
ข้อไม่ควรทำเมื่อไปร้านซูชิ ตอนที่ 2 โรงละครซูชิ