เบี้ยประกันภัยญี่ปุ่นพุ่ง หลังเผชิญภัยพิบัติถี่

ค่าประกันภัยของญี่ปุ่นจะถูกปรับขึ้นราว 2-4% เฉลี่ยทั่วประเทศ และสูงสุดกว่า 30% หลังจากประเมินว่าญี่ปุ่นมีความเสี่ยงเผชิญภัยธรรมชาติถี่ขึ้น ทั้งแผ่นดินไหวใหญ่, คลื่นสึนามิถล่ม, พายุไต้ฝุ่น และน้ำท่วมครั้งล่าสุด

สมาคมประกันภัยของญี่ปุ่น ระบุว่า ค่าชดเชยความเสียหายเฉลี่ยจากเหตุพายุไต้ฝุ่นในช่วงปี 2004-2012 เพิ่มขึ้นจาก 80,000 ล้านเยน เป็น 100,000ล้านเยน ขณะที่ค่าชดเชยความเสียหายจากลมที่ไม่ใช่พายุไต้ฝุ่นก็เพิ่มขึ้นจาก 50,000 ล้านเยน เป็น 140,000 ล้านเยน โดยความเสียหายจากลมพายุนั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและมีความถี่มากขึ้นอย่างชัดเจน จึงทำให้มีค่าชดเชยสูงมาก สมาคมประกันภัยของญี่ปุ่นจึงเสนอให้ปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราเฉลี่ย 2-4% โดยจะเริ่มในเดือนตุลาคม ปีนี้

อย่างไรก็ตาม อัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกปรับขึ้นนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งประเภทของสิ่งปลูกสร้าง เช่น เป็นบ้านไม้, เป็นอพาร์ทเมนต์ หรือเป็นอาคารสูง เป็นต้น

พื้นที่ที่ถูกปรับเพิ่มค่าเบี้ยประกันสูงที่สุดในญี่ปุ่น คือ เกาะคิวชู และโอกินาวะ ที่ถูกปรับเพิ่มมากกว่า 30% เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งเผชิญพายุไต้ฝุ่นเป็นประจำ ขณะที่พื้นที่กรุงโตเกียว นครโอซากา และจังหวัดมิยางิ ค่าเบี้ยประกันจะปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ

ขณะเดียวกัน ค่าเบี้ยประกันสำหรับคอนโดมิเนียมในจังหวัดฟูกุโอกะ ก็จะถูกปรับขึ้นราว 47% เช่นเดียวกับคอนโดมีเนียมในจังหวัดไอจิ ก็ถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จึงต้องขึ้นค่าเบี้ยประกัน 39% ส่วนบ้านไม้ซี่งปกติก็มีค่าเบี้ยประกันสูงกว่าอาคารคอนกรีตหลายเท่าตัวอยู่แล้ว ก็จะถูกปรับขึ้นไปอีกราว 38 %

นอกจากจะปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันแล้ว บริษัทประกันภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่นยังจะปรับลด “ค่าพรีเมียม” หรือส่วนลดพิเศษสำหรับอาคารก่อสร้างใหม่ ตั้งแต่ 11-20% รวมทั้งยังหาช่องทางอื่นๆ ที่จะช่วยให่บริษัทลดความเสี่ยงที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นบ่อยขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ บริษัทประกันภัยจะตัดลดระยะเวลารับประกัน จากทุกวันนี้ที่อาคารจำนวนมากมักทำสัญญาประกันนานสูงสุด 36 ปี แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะต้องต่อสัญญาทุก 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันจะต้องเพิ่มขึ้นและส่วนลดต่างๆจะน้อยลง ทำให้เจ้าของบ้านเรือนและอาคารซึ่งถูกประเมินว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่างเร่งเปลี่ยนสัญญาประกันภัยเป็นระยะยาวที่สุด ก่อนที่อัตราเบี้ยประกันใหม่สุดแพงจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคมนี้.