เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น ทำให้เมืองโจโซซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุดกลายเป็นเมืองบาดาล มีพื้นที่ที่ยังจมอยู่ใต้น้ำมากกว่า 40 ตารางกิโลเมตร
สำนักข่าว NHK เผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศ ของคณะนักวิจัยแห่งสำนักงานภูมิสารสนเทศของรัฐบาลญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่า เมืองโจโซในจังหวัดอิบะระกิ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ที่ยังจมอยู่ใต้น้ำจากทางใต้ไปจนจรดเหนือเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร และจากตะวันออกไปจรดตะวันตกเป็นระยะ 4 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 40 ตารางกิโลเมตร
เมืองโจโซประสบอุทกภัยหนักที่สุด เนื่องจากคันกั้นแม่น้ำคินุงะวะแตก ทำให้กระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทำให้อาคารต่างกว่า 20,000 หลังทั้งบ้านพักอาศัยและคลังสินค้าถูกกระแสน้ำพัดทำลาย หรือจมอยู่ใต้น้ำ
จนถึงขณะนี้ ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทหารกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นประมาณ 1,800 นายยังคงค้นหาผู้คนที่หายสาบสูญไปในเมืองโจโซอีก 15 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตไป 7 คน
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ฟ้าเริ่มสางในวันอาทิตย์ที่ 13 เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากทางอากาศ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เข้าไปตามหาผู้รอดชีวิตตามบ้านเรือนต่าง ๆ ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย
อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 60 ปีของญี่ปุ่น นอกจากเมืองโจโซ จังหวัดอิบะระกิ ที่กลายเป็นเมืองบาดาลแล้ว ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักยังได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่จังหวัดมิยะงิและจังหวัดโทะชิงิ ซึ่งเป็นจังหวัดข้างเคียงอีกด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำท่วมและดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงอยู่ และพื้นดินอยู่ในสภาพอ่อนตัว.