เหตุน้ำท่วมใหญ่ในเขตโทโฮคุ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย สูญหายอีก 26 ราย ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 410,000 คน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออกคำเตือนฉุกเฉินในจังหวัดมิยะงิทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น หลังจากฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ขณะที่จังหวัดโทะชิงิและอิบะระกิ ได้มีการยกเลิกคำเตือนฉุกเฉินเมื่อตอนเช้าวันศุกร์ที่ 11 กันยายน แต่ประชาชนจำนวนมากยังรอคอยความช่วยเหลือ
เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 60 ปี และเกิดขึ้นอย่างฉับพลันจากพายุที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่ก็ยังทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและโคลนถล่ม สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนมากกว่า 6,500 หลัง และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย สูญหายอีก 26 ราย
ภาพวีดิโอจากสำนักข่าวของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นคลื่นโคลนซัดบ้านเรือนจำนวนมากล่องลอยไปต่อหน้าต่อตา และขณะนี้ประชาชนจำนวนมากยังติดอยู่ในบ้านพักตัวเอง หรือตามดาดฟ้าอาคารต่างๆ
ฝนที่ตกหนักยังทำให้คันกั้นน้ำแม่น้ำคินุงะวะแตกในเมืองโจโซของจังหวัดอิบะระกิ น้ำโคลนไหลทะลักเข้าพื้นที่อยู่อาศัย กระแสน้ำพัดพาบ้านเรือนไปมากมาย และทำให้บ้านเรือนหลายหลังจมอยู่ใต้น้ำ
สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น รายงานว่า กลุ่มเมฆฝนได้เคลื่อนออกจากจังหวัดโทะชิงิและจังหวัดอิบะระกิแล้วเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 11 กันยายน แต่จังหวัดมิยางิยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำฝนวัดได้กว่า 500 มิลลิเมตรนับตั้งแต่เริ่มมีฝนตกจนถึงเช้าตรู่วันศุกร์ที่ 11 กันยายน ซึ่งเป็นปริมาณน้ำฝนที่มากเกือบเป็น 2 เท่าของปริมาณน้ำฝนรวมเฉลี่ยของเดือนกันยายน
ทางการจังหวัดมิยะงิได้ขอให้กองกำลังป้องกันตนเองแห่งญี่ปุ่น ส่งหน่วยกู้ภัยพิบัติไปช่วยเหลือผู้คนอย่างน้อย 1,200คนที่ยังติดอยู่ในบ้านเรือน ขณะที่เมืองเซ็นได ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดมิยะงิ ออกคำแนะนำให้ประชาชนกว่า 410,000 คนอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย.
