นักท่องเที่ยวที่ต้องการปีนภูเขาไฟฟูจิจำเป็นต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัย หลังมาตรการรณรงค์โดยสมัครใจไม่ได้ผลเท่าที่ควร
สำนักงานสิ่งแวดล้อมของจังหวัดยามานาชิและจังหวัดชิสุโอกะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเส้นทางขึ้นชมภูเขาไฟฟูจิ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ปีนภูเขาไฟฟูจิต้องสวมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย 3 อย่าง คือ หมวกนิรภัย, แว่นตา และหน้ากากกันฝุ่น เพื่อความปลอดภัยทั้งก้อนหินที่ร่วงหล่น และการพ่นเถ้าถ่านจากภูเขาไฟที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
หน่วยบริการด้านความปลอดภัยของภูเขาไฟฟูจิ ได้เริ่มมาตรการรณรงค์ให้นักปีนเขาสวมอุปกรณ์ป้องกันตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน ปีนี้ หากแต่มีนักท่องเที่ยวใส่ใจน้อยมาก โดยใน 9 วันแรกที่ทั้ง 2 จังหวัดเปิดเส้นทางให้ปีนขึ้นสู่ภูเขาไฟฟูจิ มีนักท่องเที่ยวปีนขั้นชมภูเขาไฟฟูจิมากถึง 5683 คน แต่มีผู้ที่สวมหมวกนิรภัยเพียงแค่ 20 คนเท่านั้น นักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่าไม่ทราบว่าต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันดังกล่าว ขณะที่อีกหลายคนบอกว่าทราบ แต่ไม่อยากจะสวมอุปกรณ์มากมายให้เป็นภาระ
นายกเทศมนตรีเมืองฟูจิโยชิดะ จังหวัดยามะนะชิ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญขึ้นสู่ภูเขาไฟฟูจิ ระบุว่า รู้สึกตกใจที่แทบไม่มีนักท่องเที่ยวสวมอุปกรณ์ป้องกัน ซ้ำยังเห็นว่าอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเป็นสัมภาระหนักหนา ทั้งๆที่หมวกนิรภัยทุกวันนี้มีน้ำหนักเบาและถ่ายเทอากาศได้ดี จึงสวมได้อย่างไม่อึดอัด
หน่วยบริการด้านความปลอดภัยของภูเขาไฟฟูจิ จะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น รวมทั้งพิจารณาบังคับให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ปีนภูเขาไฟฟูจิต้องสวมหมวกนิรภัยตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป.