xs
xsm
sm
md
lg

ภูเขาไฟปะทุใกล้แหล่งน้ำพุร้อนดังญี่ปุ่น สั่งอพยพผู้คน-จำกัดการเข้าพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online





รอยเตอร์ - ภูเขาไฟลูกหนึ่งในเมืองฮาโกเนะ แหล่งน้ำพุร้อน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงโตเกียว เกิดปะทุเล็กๆในวันอังคาร (30 มิ.ย.) ส่งผลให้ทางการต้องจำกัดการเข้าพื้นที่และเรียกร้องประชาชนจำนวนหนึ่งอพยพออกมา ท่ามกลางคำเตือนมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทุเพิ่มเติม

ญี่ปุ่นประสบเหตุภูเขาไฟปะทุหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ หนึ่งในนั้นทำให้ต้องอพยพผู้คนจากเกาะแห่งหนึ่งทางใต้ของประเทศ และในเดือนกันยายน มีผู้เสียชีวิต 63 ราย จากเหตุภูเขาไฟออนตาเกะที่แออัดไปด้วยนักปีนเขาเกิดระเบิดครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน
 เถ้าถ่าน ก๊าซและควันถูกพ่นออกมาจากแอ่งแห่งหนึ่งบนภูเขาไฟฮาโกเนะ อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ห่างจากกรุงโตเกียว ประมาณ 80 กิโลเมตร
เถ้าถ่านภูเขาไฟถูกพ่นออกมาจากแอ่งแห่งหนึ่งบนภูเขาฮาโกเนะ ซึ่งพ่นกลุ่มก๊าซและควันออกมาเป็นจำนวนมากผิดปกติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดสถานตากอากาศบางส่วนในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ และมีประชาชนแค่ราวๆ 40 คนเท่านั้นที่ถูกร้องขอให้อพยพออกมา

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟดังกล่าวจากขั้น 2 สู่ระดับ 3 สั่งปิดพื้นที่ที่หนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของหน่วยงานแห่งนี้บอกว่าความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางตะวันตกราว 80 กิโลเมตร ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่ “มันเป็นการปะทุระดับเล็กๆ แต่ก็มีโอกาสเกิดการปะทุครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง” เขาแถลงกับผู้สื่อข่าว

เมืองฮาโกเนะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านแหล่งน้ำพุร้อนและมีทัศนียภาพมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ จนดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนถึง 21 ล้านคนปี 2014 ในนั้นรวมเป็นชาวต่างชาติถึง 217,000 คน

โทชิสึกุ ฟูจิ นักภูเขาไฟวิทยาจากมหาวิทยาลัยโตเกียวกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะพยากรณ์ระดับของการปะทุ เนื่องจากภูเขาไฟลูกนี้ปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อ 800 ปีก่อน “หากเริ่มมีแม็กมาเข้ามาเกี่ยวข้อง การระเบิดอาจทวีความรุนแรงขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสัญญาณเตือนแค่เล็กน้อย หลายอย่างตอนนี้เกิดขึ้นในระดับที่ลึก บางทีมันอาจไม่รุนแรงไปกว่านี้ แต่คุณก็ไม่สามารถบอกได้หรอกว่ามันจะเปลี่ยนไปหรือไม่”


กำลังโหลดความคิดเห็น