ตำรวจญี่ปุ่นสั่งจับตาความเคลื่อนไหวของแก็งค์ยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หลังเกิดความขัดแย้งภายในจนสมาชิกจำนวนมากแยกตัวออกไปตั้งกลุ่มอิทธิพลของตัวเอง
“ยามากุชิ กุมิ” แก๊งยากูช่าที่ใหญ่ที่สุดในแดนอาทิตย์อุทัยที่มีสมาชิกมากกว่า 23,000 คน และมีสาขา 21 แห่งใน 44 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น เกิดความแตกแยกภายในอย่างหนักหลังการประชุมใหญ่ของแก๊งที่เมืองโกเบเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อสมาชิกจำนวนหนึ่งขอแยกตัวเป็นอิสระ จนอาจนำไปสู่การห้ำหั่นครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปีของกลุ่มอิทธิพลมืดในญี่ปุ่น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น และตำรวจจังหวัดเฮียวโกะได้สั่งจับตาความเคลื่อนไหวของแก๊งยามากุชิ กุมิ รวมทั้งเพิ่มกำลังตำรวจสายสืบกว่า 100 นายสอดส่องฐานบัญชาการใหญ่ของแก๊งที่เมืองโกเบ หลังจากมีข่าวว่านายชิโนบุ สึคะสะ ผู้นำอาวุโสวัย 73 ปีต้องการย้ายฐานของแก๊งจากเมืองโกเบไปยังเมืองนาโกย่า
ข้อเสนอของนายสึคะสะถูกคัดค้านอย่างหนักจากสาขาของแก๊งในเขตคันไซ ที่ประท้วงโดยการไม่เข้าร่วมการประชุมใหญ่ของแก็งค์ พร้อมระบุว่าจะนำพลพรรคส่วนหนึ่งแปรพักตร์ออกไป โดยต้องการใช้ชื่อ “ยามากุชิ กุมิ” เหมือนดังเดิม จึงอาจทำให้เกิดศึกภายในครั้งใหญ่ของกลุ่มอิทธิพลมืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
แก๊งยามากุชิ กุมิ ดำเนินกิจกรรมมานานถึง 100 ปี โดยมีทั้งส่วนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และที่ผิดกฎหมาย เช่น การกรรโชกทรัพย์, เก็บค่าคุ้มครอง, ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ รวมทั้งบ่อนการพนันและธุรกิจโสเภณี แต่เนื่องจากเครือข่ายที่กว้างขวาง ทำให้ผู้นำแก๊งระดับบนแทบจะไม่เกี่ยวพันโดยตรงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย และตำรวจทำได้เพียงการจำกัดการเคลื่อนไหวของเครือข่ายย่อยของแก๊งเท่านั้น
นอกจากนี้ สาขาของแก๊งหลายแห่งยังต้องการผันตัวเองจากการตีรันฟันแทงและธุรกิจสีเทา มาสู่ธุรกิจที่ทำเงินได้มากกว่า เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือการผูกขาดกิจการในพื้นที่อิทธิพลของตัวเอง
ทั้งนี้ การห้ำหั่นของแก๊งยากูช่าในญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1985 และ1987 ซึ่งทำให้สมาชิกแก๊งค์ยามากุชิ กุมิ เสียชีวิตไป 25 คน และบาดเจ็บมากกว่า 70 คน.