สนามบินของญี่ปุ่นเน้นย้ำผู้โดยสารว่า ห้ามพกพาวเวอร์แบงก์และถ่านชนิดชาร์จไฟทุกชนิด ลงในกระเป๋าเดินทางที่โหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน โดยอนุโลมให้นำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ในจำนวนที่เหมาะสมเท่านั้น
สนามบินของญี่ปุ่นรวมทั้งหลายประเทศ ได้ประกาศมาตรการการควบคุม ห้ามผู้โดยสารพกพาวเวอร์แบงก์และถ่านชนิดชาร์จไฟทุกชนิด เช่น ถ่านสำหรับโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์พกพา รวมทั้งกล้องถ่ายรูป ลงในกระเป๋าเดินทางที่โหลดลงใต้ท้องเครื่องบินนั้น โดยมาตรการนี้บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่จนถึงทุกวันนี้ยังมีผู้โดยสารจำนวนมากไม่รับรู้กฎดังกล่าว ทำให้ต้องรื้อกระเป๋าเดินทาง ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าจำนวนมาก
สาเหตุของการควบคุมการพกพาถ่านชนิดชาร์จไฟนั้น เนื่องจากพบว่าอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในห้องสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินนั้น อาจทำให้ถ่านเกิดลุกไหม้ติดไฟขึ้นมาได้
ทั้งนี้ สนามบินนาริตะของญี่ปุ่น พบว่า ตั้งแต่บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ยังตรวจพบผู้โดยสารพกพาถ่านในกระเป๋าเดินทางมากกว่า 3,500 ก้อนต่อเดือน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 2 ปีก่อนถึง 7 เท่าตัว
โดยหากเครื่องเอ็กซ์เรย์ตรวจพบถ่านชาร์จไฟในกระเป๋าของผู้โดยสารรายใด ผู้โดยสารรายนั้นจะถูกเรียกตัวให้กลับไปนำถ่านออกจากกระเป๋าเดินทาง หากแต่ผู้โดยสารหลายคนกลับคิดว่า ถ่านชาร์จไฟไม่ใช่วัตถุอันตราย จึงไม่ใส่ใจต่อเสียงประกาศเรียกตัวของทางสายการบิน ส่งผลให้เที่ยวบินต้องล่าช้าจำนวนมาก.