แตงโมเป็นผลไม้ยอดนิยมสำหรับฤดูร้อน โดยชาวญี่ปุ่นมีวิธีการกินแตงโมให้อร่อยยิ่งขึ้น โดยมีเคล็ดลับคือ เกลือ
แตงโมเป็นผลไม้ประจำฤดูร้อนที่ชาวญี่ปุ่นนิยมอย่างมาก โดยราคาแตงโมปกติที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ตของญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 800-1000 เยนต่อลูก หากแต่แตงโมของญี่ปุ่นนั้นจะมีรสชาติที่หวานน้อยกว่าแตงโมของประเทศอื่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีวิธีรับประทานแตงโมให้ชุ่มฉ่ำใจที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ คือ โรยเกลือก่อนกิน
ชาวญี่ปุ่น บอกว่า เกลือทำให้แตงโมมีรสชาติหวานมากขึ้น และเป็นความหวานแบบธรรมชาติ ขณะที่คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เรื่องความหวานที่เพิ่มขึ้นจากการโรยเกลือมี 2 ทฤษฎี คือ เกลือไปกระตุ้นประสาทรับรส ซึ่งปกติแล้วลิ้นและสมองของคนเราจะไวต่อรสเค็มมากกว่ารสหวาน ดังนั้นการโรยเกลือบนแตงโมจึงทำให้ประสาทรับรสหวานทำงานได้ดีขึ้น
อีกทฤษฎีหนึ่ง คือ เกลือทำให้เซลล์ในเนื้อแตงโมคายน้ำ ทำให้แตงโมมีความชุ่มฉ่ำมากขึ้น จึงรู้สึกถึงรสหวานมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรของญี่ปุ่นได้พัฒนาให้แตงโมมีความหวานมากขึ้น และตามซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ จะมีการติดป้ายฉลากบอกระดับความหวานของแตงโมไว้ด้วย โดยมีระดับความหวานตั้งแต่ 1 ถึง15 ตัวเลขยิ่งมากยิ่งหวาน
นอกจากนี้ เกษตรกรญี่ปุ่นยังประสบความสำเร็จในการปลูกแตงโมให้มีรูปร่างต่างๆ จนขายได้ในราคาที่สูงกว่าปกติอย่างมาก
เกษตรกรของญี่ปุ่นคิดค้นวิธีปลูกแตงโมรูปทรงสี่เหลี่ยมได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้เกษตรกรญี่ปุ่นสามารถผลูกแตงโมให้เป็นรูปร่างใดก็ได้ ทั้งรูปทรงปิรามิด หรือ รูปหัวใจ โดยจะใช้กล่องอะคริลิกสวมครอบผลแตงโมไว้ตั้งแต่ยังเป็นลูกขนาดเล็ก เพื่อให้แตงโมเปลี่ยนรูปร่าางตามที่ต้องการ
วิธีการเช่นนี้สามารถเพิ่มมูลค่าของผลไม้ได้หลายเท่าตัว แตงโมรูปทรงปิรามิดที่เกษตรกรชาวญี่ปุ่นคิดค้นวิธีปลูกได้สำเร็จ สามารถจำหน่ายด้วยราคาถึงลูกละ 2,960 เยน หรือกว่า 4,000บาท
อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านผลไม้ในกรุงโตเกียว ระบุว่า ผลไม้ราคาสูงเหล่านี้เป็น “อาหารตา” มากกว่า “อาหารปาก” เพราะความจริงแล้ว ผลไม้เหล่านี้มีรสชาติอร่อยสู้ผลไม้ปกติไม่ได้ แต่เนื่องจากความพิเศษของมัน ทำให้กลายเป็นของกำนัลหรูหราที่มอบให้แก่กันมากกว่า จะซื้อมาเพื่อรับประทานเอง
ผลไม้ราคาสูงเหล่านี้เป็นของขวัญที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง มอบให้แก่กันในช่วงเทศกาลฤดูร้อน โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ร้านสรรพสินค้าในญี่ปุ่นจำหน่ายมะม่วงคู่หนึ่งด้วยราคาสูงถึง 300,000 เยน หรือราว 100,000 บาท ซึ่งเป็นผลไม้ที่แพงที่สุดเป็นประวัติการณ์.