รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า กรีซได้ไถ่ถอนพันธบัตรสกุลเงินเยน ที่ได้ออกไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลกรีซยังแสดงความรับผิดชอบต่อภาระผูกพันต่อนักลงทุนต่างชาติ
รัฐบาลกรีซได้เสนอขาย “ซามูไรบอนด์” หรือพันธบัตรสกุลเงินเยน ต่อนักลงทุนและสถาบันของญี่ปุ่นเมื่อปี 1995 โดยให้อัตราดอกเบี้ย 5.8% ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวได้ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลกรีซกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ จนเสี่ยงจะจะต้องถอนตัวออกจากกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร
ธนาคารมิซูโฮ ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ยืนยันว่ารัฐบาลกรีซได้ชดใช้หนี้มูลค่า 11,700 ล้านเยน หรือประมาณ 95 ล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดชำระโดยไม่มีบิดพริ้ว ซึ่งถือเป็นหนี้เอกชนก้อนแรกที่รัฐบาลกรีซชดใช้หลังจากขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป
นายทะโร อะโซ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น ระบุว่า ตลาดการเงินดูเหมือนว่าจะคลายความกังวลลงหลังจากที่ได้มีการตกลงกันในบรรดาผู้นำกลุ่มประเทศยูโรโซน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในกรีซยังไม่แน่นอนจนกว่ารัฐสภาของกรีซจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างออกมาบังคับใช้ ตามเงื่อนไขสำหรับการเจรจาให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่กรีซ
ทางด้านนายอะกิระ อะมะริ รัฐมนตรีด้านนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า กรีซจะต้องหารือกับสหภาพยุโรปเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มรายได้ของรัฐนอกเหนือไปจากปรับเพิ่มภาษี โดยกรีซควรหาทางดึงเอาเงินจากภาคเอกชนมาเพิ่มรายได้จากภาษีให้แก่รัฐ และดำเนินกลยุทธ์เพื่อความเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปฏิรูปโครงสร้างการเงินการคลังเพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสี่ยงกับภาวะล้มละลาย.