รัฐบาลญี่ปุ่นและบริษัทพลังไฟฟ้าโตเกียว หรือเทปโก้ ร่วมทบทวนแผนแนวทางปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิเป็นครั้งแรก หลังจากโรงไฟฟ้าเสียหายอย่างไม่อาจจะฟื้นฟูได้จากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่มเมื่อ 4 ปีก่อน
แผนแนวทางใหม่นี้คาดการณ์ว่า การขนย้ายแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วที่อยู่ในบ่อหล่อเย็นออกไปจะล่าช้านานถึง 3 ปี จากเป้าหมายเดิมที่จะเริ่มขจัดเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่หลอมละลายภายในเวลา 6 ปี และจะเสร็จสิ้นงานปลดระวางโรงไฟฟ้าภายในเวลา 30-40 ปี
คุณโนะริยุกิ มิซุโนะ นักวิเคราะห์ข่าวอาวุโสของ NHK จะแสดงทัศนะเกี่ยวกับการปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ ว่า การขนย้ายเชื้อเพลิงที่หลอมละลายออกไปเป็นภารกิจที่ยากที่สุด วิธีการที่รัฐบาลญี่ปุ่นและเทปโก้กำหนดไว้แต่เดิม คือการเติมน้ำลงไปในอุปกรณ์ครอบเตาปฏิกรณ์จนเต็ม ก่อนที่จะนำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่หลอมละลายออกมา แต่วิธีการนี้มีความเสี่ยงที่ทำให้น้ำรั่วไหลออกมาจากอุปกรณ์ครอบเตาปฏิกรณ์โดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งรัฐบาลและเทปโก้ยอมรับถึงข้อจำกัดของวิธีการปลดระวางแบบเดิม และกำลังสรรหาวิธีใหม่
การขนย้ายเชื้อเพลิงที่หลอมละลายออกมาจากไฟฟ้าฟุกุชิมะนับว่ายากกว่าเหตุการณ์ที่โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทรี ไมล์ ไอส์แลนด์ในสหรัฐฯ เมื่อ 36 ปีก่อน โดยโรงไฟฟ้าทรี ไมล์ ไอส์แลนด์ ต้องใช้เวลาขนย้ายเชื้อเพลิงนิวเคลียร์นานถึง 11 ปี แต่ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะต้องใช้เวลานานกว่ามาก
รัฐบาลญี่ปุ่นและเทปโก้กล่าวว่าจะเสร็จสิ้นการปลดระวางโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิภายในเวลา 30-40 ปี แต่ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาสำหรับขั้นตอนต่างๆ ไว้ชัดเจน โดยในทุกๆ เดือนกากกัมมันตรังสีหลายพันตันจะสั่งสมอยู่ภายในโรงไฟฟ้า และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสถานที่ใดที่สามารถขนกากกัมมันตรังสีไปทิ้งได้
เมื่อต้นปีนี้ มีคนงานคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากที่ตกลงไปในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้า โดยสาเหตุเบื้องหลังอุบัติเหตุนี้คือ กำหนดการที่เร่งรัดซึ่งสร้างแรงกดดันให้เหล่าคนงาน โดยการปลดระวางเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่หลอมละลายทั้ง 3 เตาทีเดียวพร้อมกันเป็นภารกิจที่ไม่เคยมีใครกระทำมาก่อน ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นและเทปโก้จำเป็นต้องชี้แจงการดำเนินงานโดยละเอียด และสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นจังหวัดฟุกุชิมะด้วย.