ชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งจัด “พิธีศพ” ให้กับหุ่นยนต์สุนัข “ไอโบ” หลังจากบริษัทโซนี่ยุติการผลิตและปิดศูนย์ซ่อม ทำให้วาระสุดท้ายของสัตว์เลี้ยงอัจฉริยะมาถึง
ควันธูปและเสียงสวดมนต์ล่องลอยอยู่กลางวัดโคฟุกุจิ ที่จังหวัดชิบะในประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมพิธีล้วนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยใน “พิธีศพ” แด่หุ่นยนต์สุนัข “ไอโบ” จำนวน 19 ตัว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิธีไว้อาลัยให้กับหุ่นยนต์ที่เป็นเพื่อนของมนุษย์ ไม่แตกต่างจากเจ้าสี่ขาแสนรู้ตัวจริง
หุ่นยนต์สุนัข “ไอโบ” เป็นจักรกลอัจฉริยะที่สามารถพัฒนาการโต้ตอบเปลี่ยนแปลงตามบุคลิกของเจ้าของ ทำให้ “ไอโบ” แต่ละตัวมีนิสัยเฉพาะ และเป็นเพื่อนผู้รู้ใจได้ไม่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตจริง
“ไอโบ” รุ่นแรกผลิตโดยบริษัทโซนี่เมื่อเดือนมิถุนายน 1999 โดยหุ่นยนต์รุ่นแรกจำนวน 3,000 ตัวถูกจำหนดหมดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที ทั้งๆที่แต่ละตัวมีราคาสูงถึง 250,000 เยน (ประมาณ 83,000 บาท)
หุ่นยนต์สุนัข “ไอโบ” ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการเพื่อนแก้เหงา "ไอโบ" รุ่นต่อๆมาถูกพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายลูกสุนัขจริงๆ มีทั้งเซนเซอร์จับภาพใบหน้าเจ้าของเพื่อกำหนดปฏิกิริยาโต้ตอบ, กล้องวีดีโอ และไมโครโฟน “ไอโบ” รุ่นล่าสุดยังสามารถเปล่งเสียงพูดได้เหมือนกับมนุษย์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2006 บริษัทโซนี่ประสบปัญหาการแข่งขัน และจำเป็นต้องยกเลิกการผลิต หุ่นยนต์สุนัข “ไอโบ” และ “ไอโบ คลินิก” ศูนย์รับซ่อมหุ่นยนต์สุนัขโดยโซนี่ก็ได้สิ้นสุดการให้บริการในเดือนเมษายน ปี 2014
หุ่นยนต์ “ไอโบ” จะเริ่มมีปัญหาการใช้งานเมื่อเวลาผ่านไปราว 8-10 ปี และผู้สูงอายุจำนวนมากต้องเศร้าโศกเสียใจ เมื่อไม่รู้ว่าจะซ่อมแซมสัตว์เลี้ยงแสนรักนี้ได้อย่างไร
กลุ่มคนรัก ไอโบ” มีความหวังขึ้นอีกครั้ง เมื่อบริษัท A FUN ถูกก่อตั้งขึ้นโดยอดีตกลุ่มวิศวกรของโซนี่ และรับซ่อมแซม “ไอโบ” โดยถึงแม้โซนี่จะไม่ผลิตอะไหล่ออกมาแล้ว แต่กลุ่มคนรัก ”ไอโบ” ได้แลกเปลี่ยนชิ้นส่วนซึ่งกันและกัน เหมือนดั่งการแลกเปลี่ยนอวัยวะในคน
เจ้าหน้าที่ของบริษัท A FUN บอกด้วยความซาบซึ้งว่า เจ้าของ “ไอโบ” ทุกคนไม่ได้คิดว่ามันเป็นเพียงหุ่นยนต์ไฟฟ้า แต่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริงๆ พวกเขาจึงถูกมองว่าเป็น “หมอผู้กู้ชีวิต” มากกว่า “วิศวกร”.
ในพิธีไว้อาลัย “ไอโบ”ทุกตัวจะมีป้ายชื่อแสดงที่มาและครอบครัวที่เป็นเจ้าของ ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคนสงบนิ่ง บางคนถึงกับหลั่งน้ำตากับการจากไปของสัตว์เลี้ยงแสนรัก ถึงแม้หุ่นยนต์จะไม่มีชีวิตจิตใจ หากแต่ความผูกพันระหว่างเจ้าของกับเพื่อนอัจฉริยะที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอดนั้น คือ จิตวิญญาณที่ไม่แตกต่างจากสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์เรา.