xs
xsm
sm
md
lg

อาหารที่ควร “หลีกเลี่ยง” หากมีอาการป่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อเป็นหวัดหรือมีไข้ สิ่งที่ไม่ควรทาน ได้แก่

ผักโขม
ในผักโขมมีสารที่ชื่อว่า ฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารที่เป็นตัวหลั่งสารภูมิแพ้ออกมาทางร่างกาย “มันจไปกระตุ้มเซลล์ ที่เรียกว่าแมสต์เซลล์ และปล่อยสารฮีสตามีนออกมาและทำให้เกิดการอักเสบ” Renee Wellenstein แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าว “สารฮีสตามีนมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับอาการหวัดละไข้จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้อาการหนักกว่าเดิมได้”

ถั่ว
ถั่วอันที่จริงแล้วเป็นแหล่งรวบรวมซิงก์และวิตามินอี แต่อีกมุมหนึ่งถั่วก็มีไขมันมาก การกินถั่วขณะที่ป่วยทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดท้อง

บรอกโคลี
บรอกโคลีมีประโยชน์มากมาย มีภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามินเอและซี แต่ก็เป็นผักที่มีไฟเบอร์สูง อาจทำให้ย่อยยากขณะที่คุณกำลังป่วย Mahmoud Ghannoum ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ กล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ลำไส้ทำงานหนักควรเลือกกินอาหารไฟเบอร์ต่ำไปก่อน

เมื่อปวดศีรษะ สิ่งที่ไม่ควรทาน ได้แก่

ชีสที่บ่มมานาน (Aged Cheese)
อาหารที่ยิ่งบ่มนานยิ่งมีสารฮีสตามีนสูง ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว ก่อให้เกิดอาการปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิม

อาหารหมักดอง
เพราะในอาหารหมักดองจะมีสารไทรามีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ การกินอาหารประเภทนี้ขณะปวดหัวจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและหดตัว จึงเป็นสาเหตุให้มีอาการมากขึ้น

เมื่อไอหรือเจ็บคอ สิ่งที่ไม่ควรทาน ได้แก่

ผักดิบ
ผักดิบมันจะมีส่วนหยาบหรือขรุขระ ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองขณะกลืนได้ แม้ว่าอันที่จริงแล้วผักดิบถือเป็นของคบเคี้ยวที่มีประโยชน์ แต่พักการกินไว้ก่อนหากกำลังไอหรือเจ็บคอ

ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
แม้ว่าผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินสูง แต่ในอีกมุมหนึ่งความเป็นกรดของมันก็อาจทำให้ระคายคอมากขึ้นได้ ดังนั้นคุณควรจะหาวิตามินซีจากแห่งอื่นไปก่อนในช่วงที่มีอาการ

เมื่อปวดท้อง คลื่นไส้ หรือท้องเสีย สิ่งที่ไม่ควรทาน ได้แก่

ผลิตภัณฑ์จากนม
ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีส่วนผสมของแลคโตส บางคนก็มีอาการแพ้แลคโตส เพราะแลคโตสทำให้กระเพาะย่อยยาก จึงอาจทำให้มีอาการปวดท้อง หรือท้องเสียมากขึ้นได้

รำข้าว
รำข้าวมีใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำสูง ดังนั้นเมื่อทานเข้าไปมันจะพุ่งตรงไปที่ลำไส้ เช่นเดียวกับพวกกราโนลา ข้าวกล้อง และพาสต้าข้าวสาลี

ถั่ว
น้ำตาลที่อยู่ในถั่ว (อัลฟากาแลกโตซิเดส) ทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาจทำให้ท้องเสียงหรือมีแก๊ซในท้องได้ เพราะว่าร่างกายอาจจะสร้างเอนไซม์ที่ไม่พอสำหรับการย่อยน้ำตาลเหล่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น