วันนี้ (15 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี "เสี่ยเบนท์ลีย์" ขับรถเฉี่ยวชนบนทางพิเศษเฉลิมมหานครมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย ว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมของพนักงานสอบสวนพบว่า ผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหามีสารเสพติดได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่
.
1. เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยผิดกฎหมาย
2. เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และ
3. ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน
.
กรณีข้อหา "เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยผิดกฎหมาย" ซึ่งอยู่นอกอำนาจการสอบสวนของ ศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร.นั้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร.เป็นหัวหน้าฯ และมีพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ พื้นที่เกิดเหตุร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย ส่วนเรื่องความเร็วรถอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) หากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้นพบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของ พฐ.เช่นเดียวกันว่ามีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่ ย้ำว่า บช.น.จะดำเนินการเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป
.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา 1. ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส 2. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย 3. ขับรถในขณะเมาสุรา รวมทั้งหมด 6 ข้อหา