เพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation โพสข้อความระบุว่า เป็นเรื่องเศร้าในครอบครัวที่ลูกสาวยืนยันต้องการให้พ่อรับโทษในผลกรรมที่ทำไว้กับสัตว์
.
เหตุขโมยแมวสุดรักไปปล่อยทิ้ง พบอีกทีกลายเป็นศพเพราะถูกรถชนตาย
.
ทางเพจ WDT จึงได้มีการประสาน ให้รับคดีแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษข้อหาลักทรัพย์และทารุณกรรมสัตว์ พร้อมลงพื้นที่เรียกตัวผู้กระทำผิดไปรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด
.
ลูกสาวยืนยัน อยากให้เป็นบทเรียนของพ่อว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก ! ทุกวันนี้ ยังคงร้องไห้ไม่หยุดด้วยความรักและสงสารฮาชิ แมวน้อยผู้อาภัพ
.
ขณะที่ นส.เอที่ทำการแจ้งความในเรื่องนี้ได้มีการเปิดเผยผ่านสื่อระบุว่า ตนไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ ตนออกมาอยู่คนเดียว เนื่องจากทนพ่อที่มีอารมณ์โมโหร้าย พูดจาหยาบคาย ไม่ได้ แต่ยังมีการติดต่อพูดคุยกับแม่บ้าง
.
ช่วงเกิดเหตุตนมีธุระที่ต้องเข้ากรุงเทพฯ เลยทิ้งน้อง (แมว) ไว้กับแม่และเลี้ยงอยู่นอกบ้านเพราะที่บ้านเลี้ยงกระต่ายไว้ในบ้าน โดยวันที่เกิดเหตุฝนตกฟ้าร้องกระต่ายคงตกใจวิ่งไปมาในบ้านทั้งคืน พอเช้ามากระต่ายตาย พ่อมามาโทษว่าสาเหตุเกิดจากแมวของตน ซึ่งมันจะเป็นไปได้ไง เพราะกระต่ายเลี้ยงอยู่ในบ้าน แมวอยู่ในกรงนอกบ้าน
.
วันที่ทราบข่าวว่าแมวตายตนถามพ่อว่า ที่ถามตอนแรกว่าเห็นแมวไหม แล้วตอบว่าไม่เห็น ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้น พ่อตอบเพียงว่า แค่จะเอาแมวไปปล่อยวัด แต่แมวมาถูกรถชนตาย พ่อไม่ได้ตั้งใจ ส่วนที่ตนไปแจ้งความ เพราะว่าอยากให้พ่อรู้ในสิทธิของคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เป็นพ่อแม่แล้วทำอะไรก็ได้ ซึ่งตนไม่ได้ทิ้งแมวให้เขา แค่เอาไปฝากเขาเลี้ยงก่อนเท่านั้น
.
อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตหนึ่งอ้างว่าเป็นญาติกับผู้เสียหายระบุว่า คนเป็นพ่อแค่ตั้งใจจะเอาแมวไปปล่อยที่วัด แต่แมวกระโดดลงมาถูกรถชนก่อน พอกลับไปตามหาจะเอาไปรักษาแมวก็ตายแล้วและไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายแมวหรือทำให้บาดเจ็บ
.
ด้านพ่อที่ได้มีการชี้แจงภายหลังว่าตนมีอาชีพขายลูกชิ้น ลูกสาวได้เอาแมวตัวนี้มาฝากเลี้ยง แต่แมวจะคอยกวนแอบกัดลูกชิ้นอยู่หลายครั้ง ซึ่งตอนนี้ขายของก็แย่ ทุนก็ไม่มี เมื่อแมวมากัดลูกชิ้นก็เลยโมโห จึงจะเอาไปปล่อย แต่ตอนกำลังพาแมวไปปล่อย
แมวกระโดดลงจากรถจนถูกชน ตอนนั้นก็จะพาแมวไปหาหมอ แต่แมวตายซะก่อนเลยเอาไปทิ้งข้างทาง ไม่ได้เอากลับบ้านกลัวลูกด่า แต่พอลูกรู้ความจริงก็จะไปแจ้งความ
.
ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจเพราะลูกที่ตนเลี้ยงมาทำกับตนแบบนี้ แต่ก็ไม่โกรธลูกแต่อย่างใด