สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันคงสร้างความกังวลใจให้กับหลายๆท่าน โดยเฉพาะความคลุมเครือในประเด็นเกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบในวงกว้างนับจากนี้ไป ที่สำคัญยิ่งคือจะกระทบกับความเป็นไปทางเศรษฐกิจของประเทศที่วันนี้ยังมีความเปราะบาง สาเหตุจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะถดถอย เพราะปัญหาเรื่องต้นทุนพลังงาน วิกฤตอาหารที่อาจขาดแคลน ประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐ จีน และยุโรป ก็ไม่แน่ว่าจะเผชิญกับภาวะถดถอยหรือไม่ โดยทั้งหมดจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
.
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศวันนี้ คนไทยต้องเผชิญกับปัญหาราคาสินค้าแพง ต้นทุนการใช้ชีวิตพุ่งสูงจากราคาน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า แต่รายได้กลับขาดหายไปจนก่อเกิดปัญหาหนี้สินตามมา ด้านผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีรายเล็กรายย่อย ก็ทำมาค้าขายฝืดเคือง หนี้สินพอกพูน ธุรกิจขาดทุนไม่มีสภาพคล่องจนต้องปิดกิจการลงเป็นจำนวนมาก ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองเป็นแบบที่เราเห็นในปัจจุบันหลายคนคงมีคำถามว่า หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป อนาคตประเทศจะเป็นไปอย่างไร...
.
พรรคสร้างอนาคตไทย เห็นว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินและการเติมทุน เพื่อพลิกฟื้นกิจการให้กับผู้ประกอบการคนตัวเล็กนั้นมีความจำเป็นต้องทำเร่งด่วน อย่าปล่อยให้ประชาชนรู้สึกอ้างว้างไม่มีใครคอยช่วยเหลือดูแล ซึ่งในวันที่ 28 ส.ค. ที่จะถึงนี้ พรรคสร้างอนาคตไทย จะจัดกิจกรรมแถลงเปิดยุทธศาสตร์ “เราพร้อม เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย” เพื่อให้เห็นถึงสิ่งที่จะทำให้ประเทศผ่านพ้นจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านติดตามผ่านช่องทางเฟชบุ๊กพรรคสร้างอนาคตไทย และร่วมเป็นพลังแห่งความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน