xs
xsm
sm
md
lg

เสียงสะท้อนจากศิษย์เก่าสตรีวิทยา คนเร่ร่อนแถว รร.เยอะมาก หวั่นเกิดอันตราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เสียงสะท้อนจากศิษย์เก่าสตรีวิทยา  คนเร่ร่อนแถว รร.เยอะมาก  หวั่นเกิดอันตราย
เสียงสะท้อนจากศิษย์เก่าสตรีวิทยา
คนเร่ร่อนแถว รร.เยอะมาก หวั่นเกิดอันตราย
.
ในฐานะศิษย์เก่าของโรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่เคียงข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โรงเรียนหญิงล้วนบนถนนราชดำเนินกลางเพียงโรงเรียนเดียว
.
ผึ้งรักบรรยากาศรอบๆ โรงเรียนมาก มันมีเอกลักษณ์แบบที่ไม่มีโรงเรียนมัธยมที่ไหนเหมือน หน้าโรงเรียนเราเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นถนนที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ทางการเมืองมาหลายยุคสมัย แม้ประชาธิปไตยอาจไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญสำหรับเด็กๆอย่างพวกเราสมัยนั้น แต่ยามว่าง เราก็ยังข้ามถนนไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ถนนบริเวณนั้นกว้างเป็นสิบเลน รถราวิ่งตลอด แต่เราไม่เคยรู้สึกว่ามันน่ากลัวเลย ยามสัญญาณไฟเปลี่ยน เราก็ก้าวลงถนนด้วยความมั่นใจ
เลี้ยวออกจากโรงเรียนก็เป็นฟุตบาทที่มีต้นตะแบกขึ้นห่างกันแต่พอดี ถึงฤดูกาลก็ออกดอกบานสวย เรามีศึกษาภัณฑ์ซึ่งเดินห่างไปแค่ 200 เมตรไว้เป็นเหมือนห้องสมุด และร้านเครื่องเขียนที่มีทุกอย่างที่เราต้องการ เดินเลยไปอีกนิดเป็นร้านหนังสือ “พี่เบิ้ม” ร้านขายการ์ตูน เทปคาสเซตต์ และนิตยสารวัยรุ่นต่างๆ พี่เบิ้มใจดีกับพวกเราทุกคน เด็กสตรีวิทย์ยุค 80, 90 ต้องเคยไปร้านพี่เบิ้มกันทั้งนั้น ทั้งไปซื้อหนังสือ หรือไปหลบฝน แอบมองรุ่นพี่คนดัง และพวกเรายังระลึกถึงเสมอแม้พี่เบิ้มจะจากไปแล้ว
.
เราเดินเอื่อยต่อมาผ่านวิทยาศรม ถึงสี่แยกคอกวัว เลี้ยวไปเจอถนนข้าวสาร ฝรั่งไม่หนาตาเท่าทุกวันนี้ แต่แปลกดีว่าสินค้า “ไทยๆ” ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
.
ถ้าเดินข้ามไปทางถนนดินสอ มนต์นมสดกับขนมปังปิ้งอร่อยๆ รอเราอยู่ มันตั้งอยู่ริมคลองสีคล้ำ เป็นเพียงพื้นที่แคบๆ ขายนมและขนมปังปิ้งเล็กๆ ที่พวกเราแวะมาเติมความหวานกันจนชิน ไม่ใช่ร้านใหญ่โตโอ่อ่าอย่างที่เห็นทุกวันนี้ อิ่มแล้วจะอยากเดินย่อยอาหารเลยไปถึงเสาชิงช้าแล้วเดินกลับไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านที่ถนนราชดำเนินก็ได้ ช่วงเวลาเลิกเรียนของชาวสตรีวิทยาสมัยนั้นมีสิ่งน่าสนใจและมีความรื่นรมย์ให้ได้เพลิดเพลินใจได้ทุกวัน
.
เส้นทางพวกนี้เราเดินกันเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งมาปีนี้ จากเคยเป็นพื้นที่สงบร่มเย็น อยู่บนถนนที่เรียกได้ว่าเป็น Champ Elysee เมืองไทย ทุกวันนี้ บรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปมาตามยุคสมัย แต่ที่ต้องเขียนสเตตัสขึ้นมาในวันนี้ ก็เพราะมีโอกาสพูดคุยกับสมาคมศิษย์เก่า และได้พบเจอกับตัวเอง เลยได้พบว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ไม่ใช่มีแต่ความทันสมัย แต่มันมีปัญหาที่ลงรากลึกซ่อนอยู่บนถนนอันสวยงามมากมาย
.
อย่างแรกคือ บริเวณรอบโรงเรียน มีคนไร้บ้านเร่ร่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่ถนนดินสอ ผ่านหน้าโรงเรียนไปถึงสี่แยกคอกวัว วันดีคืนดีก็มีคนใจบุญมาตั้งเต้นท์แจกอาหารให้ความช่วยเหลือ จากไม่กี่คน คนไร้บ้านก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนกลางคืนที่วนเวียนอยู่แถวนี้ หน้าศึกษาภัณฑ์ที่บัดนี้เงียบเหงา บันไดด้านหน้าถูกใช้ปูนอนและวางข้าวของของคนไร้บ้านระเกะระกะ
.
อย่างที่รู้ว่า โรงเรียนสตรีวิทยาเป็นโรงเรียนหญิงล้วน แต่ต่อให้เดินกันเป็นกลุ่ม ก็ยังเป็นภาพเด็กผู้หญิงเสื้อขาวกระโปรงน้ำเงินอยู่ดี ทุกวันนี้อาจารย์ก็เป็นห่วง เพราะเด็กที่กลับบ้านเอง เด็กทำกิจกรรม ฯลฯ น้องๆ เหล่านี้ต้องออกมาพบกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร และเสี่ยงอันตรายอยู่ทุกวัน เวลาเดินต้องคอยหลบซ้ายหลีกขวา เพราะคนไร้บ้านก็นอนกันระเกะระกะ เดินไม่ระวังนี่อาจจะเผลอเหยียบพวกเขา หรือถ้ามองขึ้นมาก็เห็นใต้กระโปรงน้องๆได้เลย
.
ที่ได้เจอกับตัวเอง คือบริเวณหน้าศึกษาภัณฑ์ซึ่งเคยเป็นแหล่งรวมของวิชาการ กลับกลายเป็นแหล่งพักพิงของคนไร้บ้านหนาคา อาจด้วยฟุตบาทขนาดใหญ่ นอนได้สบาย ช่วงเช้า ถ้าเด็กๆ มาโรงเรียนจากป้ายรถเมล์ด้านถนนราชดำเนินแล้วเดินไปเข้าประตูด้านหน้าของโรงเรียนก็จะเจอคนแปลกหน้าเหล่านี้อยู่ทุกวัน หลับบ้าง จ้องมองมาที่นะกเรียนบ้าง ความรู้สึกว่า โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป นึกแล้วก็คล้ายสนามหลวงในยุคที่ยังไม่มีการจัดระเบียบ ที่มีทั้งคนจร ติดเหล้า ติดยา มีทั้งผู้หญิงกลางคืน ยืนอยู่
.
จริงอยู่ว่าเรามียามหน้าโรงเรียน แต่ก่อนเคยมีสามคน ตอนนี้ถูกลดเหลือเพียงสองคน อยู่ยามคนละ 12 ชั่วโมง จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปตรวจตราทางเท้า แค่รับนักเรียนเข้ามาโดยสวัสดิภาพก็แทบหมดแรงแล้ว
.
ส่วนประตูหลังที่เคยใช้เข้าออกยิ่งน่ากลัวใหญ่ เพราะเป็นแค่ตรองแคบๆเข้าไป มีคนจรนอนหรือยึดพื้นที่จนไม่ว่านักเรียนหรือครู ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่อยากเดินเข้าประตูนี้แล้ว
.
ระยะการเดินจากป้ายรถเมล์มาถึงประตูหน้า … เด็กทุกคนทราบดีว่าต้องระวังตัวเอง แต่ไม่ว่าเราจะระวังดีขนาดไหน ก็ไม่ได้การันตีว่าสิ่งไม่ดีจะไม่เกิดขึ้นกับตัว
.
เพราะไม่ใช่มีแต่น้องโรงเรียนหอวังเท่ารั้นที่เคยโดนทำร้าย นักเรียนที่โรงเรียนเราก็เคยถูกคนเร่ร่อนตบหน้า กรรโชกเงินตรงตู้ ATM หน้า 7/11 มาแล้ว นี่เป็นเคสเดียวที่เห็นกับตา เราไม่รู้เลยว่า เด็กๆ คนอื่นที่ไม่ได้ส่งเสียงออกมาเคยเจออะไรกันมาบ้าง
.
เราเคยแบ่งกำลังครูผลัดกันไปเป็นเวรยามดูและเด็กจากแถวแยกคอกวัว กลายเป็นว่าครูโดนลวนลาม และพูดแทะโลมใส่ ส่งครูผู้ชายก็จะถูกขู่ว่า อยู่โรงเรียนนี้ใช่ไหม ระวังตัวให้ดีนะ
ผู้ปดครองเคยรวมตัวให้ตำรวจมาจับ ทางตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะใช้ข้อหาอะไร เพราะนี่ไม่ใช่คนบ้า ดีที่สุดคือเกณฑ์ขึ้นรถตุ๊กๆ ไปลงไกลหูไกลตา แต่ก็นั่นแหละ ไม่นานพวกเขาก็กลับมา
.
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นับวันพื้นที่บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยาน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ เราะคนไร้บ้านรู้ว่าที่ตรงนี้ เดี๋ยวจะมีอาหาร มีความช่วยเหลือมาให้ พวกเขาจึงไม่ยอมไปไหน ขยะที่เหลือจากการกินการใช้ถูกกองไว้ลวกๆ รอเทศกิจมาเก็บ เรายินดีที่ผู้คนเดือนร้อนได้รับความช่วยเหลือ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าพื้นที่นั้นจะย้ายไปห่างจากบริเวณโรงเรียนหญิงล้วน
.
หากเป็นไปได้ เราอยากให้ผู้มีอำนาจมาช่วยจัดการในส่วนนี้ คืนความปลอดภัยให้เด็กผู้หญิงที่มาเรียนหนังสือให้หมดความหวาดระแวงกับการตื่นเช้ามาโรงเรียนทุกวัน
.
คนไร้บ้านเองก็ต้องการการดูแล เพียงแต่การให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้าน อาจเปลี่ยนไป ลองจัดเป็นโซนให้การดูแลอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ให้พวกเขาอยู่ในอาณาบริเวณที่ห่างไกลจากบริเวณโรงเรียน ก่อนที่จะมีปัญหาใหญ่อื่นๆ ที่อาจทำให้พวกเราต้องเสียใจตามมา
.
ผึ้งขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงแทนน้องๆ ที่โรงเรียน ขอให้มีคนมาดูแลอย่างเร่งด่วน ภัยเหล่านี้ ผึ้งเชื่อว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะแก้ไข และเพื่อสวัสดิภาพของเด็กนักเรียนผู้หญิง ม.1 ถึงม.6 ให้เขาได้เติบโตในบรรยากาศที่เป็นมิตร - อาจได้ไม่ถึงครึ่งที่ผึ้งเคยเรียน - แต่เด็กนักเรียนทุกคนควรได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยไม่ต่างจากผู้ใหญ่ หรือคนในพื้นที่อื่นๆ เช่นกัน
ผึ้งคิดว่า ปัญหาเรื่องนี้นั้นมาจากปัจจัยหลายอย่าง และคงต้องใช้ความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อให้สภาพแวดล้อมของโรงเรียนที่เรารักกลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด และจัดระเบียบพื้นที่ให้คนทุกคนได้อาศัยอยู่ในเมืองนี้ทั่วหน้ากัน
.  
วันนี้อาจจะเป็นก้าวแรกในการนำประเด็นนี้ออกมาพูดให้ทุกคนได้รับทราบ แต่มันจะไม่ใช่ก้าวเดียวที่เราจะช่วยกันแก้ปัญหาและดูแลให้โรงเรียนกลับมาปลอดภัย ไม่ใช่แค่ที่สตรีวิทยา แต่ทุกโรงเรียนที่ลูก ที่หลาน ที่คนที่เรารักและห่วงใยใช้เวลาอยู่ควรได้รับการดูแลในมาตรฐานเดียวกัน
ผึ้งคนเดียว อาจจะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ก็หวังว่าปัญหาที่เล่ามาจะได้รับการรับทราบ และกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราทุกคนต้องมองให้เห็นถึงโครงสร้างของการจัดระเบียบเมืองต่อไป เพื่อความปลอดภัยของคนใช้ถนน เพื่อให้คนเร่ร่อนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้คนทุกสถานะได้รับการดูแล และเพื่อสังคมที่ดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น